เรื่องของ Mobile Payment ยังคงมีความเคลื่อนไหวที่จะผลักดันให้เกิดอย่างต่อเนื่อง ต้องเรียกว่าปีนี้เป็นปีที่เราได้เห็นยักษ์ใหญ่ของโลกหลายๆ รายออกมาสนับสนุนให้ธุรกรรมบนโทรศัพท์มือถือเกิดขึ้นอย่างจริงจัง รวมไปถึงยักษ์ใหญ่ของโลกค้าปลีกในสหรัฐอเมริกาที่ล่าสุดออกมาจับมือกันเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่อีกครั้ง ก้าวนี้เป็นอีกก้าวที่น่าจับตามองมาก และมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จสูงเสียด้วย
ยักษ์ใหญ่ของโลกค้าปลีกในสหรับอเมริกาอย่าง WalMart, Target, Best Buy ได้ออกมาจับมือกันเปิดตัวบริษัทใหม่ที่จะเปิดให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือของตัวเองได้เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทใหม่นี้มีชื่อว่า Merchant Customer Exchange หรือ MCX ที่กำลังพัฒนาแอพลิเคชั่นที่จะรองรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนทุกระบบ รวมถึงรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลายด้วย รวมถึง Visa, Master Card และบัตรเครดิต/เดบิตอื่นๆ ด้วย
ความร่วมมือในครั้งนี้เกิดจากที่ธุรกิจค้าปลีกเหล่านี้เห็นโอกาสในอุตสาหกรรมธุรกรรมการเงินผ่านโทรศัพท์มือถือที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งประมาณกันว่าภายในปีหน้าน่าจะมียอดการใช้จ่ายทั้งสิ้นกว่า 170,000 ล้านเหรียญ หรือราว 5.1 ล้านล้านบาท เติบโตจาก 1.8 ล้านล้านบาทในปีนี้ นอกจากนั้น ห้างค้าปลีกเหล่่านี้ยังจะให้ความสำคัญกับประสบการณ์ในร้านของผู้ซื้ออีกด้วย
ในปัจจุบัน ค่าธรรมเนียมในการรูดบัตรเครดิตอยู่ที่ราว 2% ของมูลค่าสินค้าหรือบริการ ซึ่งตัวเลขรวมของค่าบริการดังกล่าวสามารถสร้างรายได้รวมกว่า 40,o00 ล้านเหรียญ หรือราว 1.2 ล้านล้านบาทให้กับธนาคารอย่าง JPMorgan Chase & Co., Bank of America Corp. รวมถึง Citigroup Inc. ซึ่งขณะนี้ MCX อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันทางการเงินทั้งหลายเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ
ในส่วนของผู้ที่จะเข้ามาร่วมกันผลักดัน mobile payment ในครั้งนี้อาจจะมีมากกว่า 14 บริษัทชั้นนำของโลก และผู้ที่จะใช้งานอาจจะรวมไปถึงปั็มน้ำมัน, ร้านอาหาร รวมถึงร้านค้าปลีกทั่วไป อย่างไรก็ดี เส้นทางที่จะผลักดัน mobile payment นี้ให้เกิดยังอีกยาวไกล ซึ่งส่วนที่สำคัญคือ MCX ยังต้องการบริษัทยักษ์ใหญ่อีกหลายรายที่จะเข้ามาร่วมผลักดันให้ระบบดังกล่าวสามารถแจ้งเกิดได้อย่างแข็งแรง
ความเห็นผู้แปล: เรายังจะต้องเอาใจช่วยความพยายามทั้งหลายในการผลักดัน mobile payment ให้เกิดอย่างสวยงามต่อไป บริษัทชั้นนำหลายๆ รายต่างก็พยายามที่จะจับมือกับพันธมิตรของตนเพื่อสร้างระบบและเครือข่ายการใช้งานที่แข็งแรงเพียงพอให้บริการแจ้งเกิดได้ แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่มีบริการใดที่สามารถผลักดันตนเองให้กลายเป็นบริการที่คนทั้งโลกสามารถเข้าถึงและนำไปใช้กับธุรกิจของตนเองได้อย่างแพร่หลาย เราคงจะได้ยินรูปแบบความพยายามที่จะผลักดัน mobile payment กันต่อไปอีก 2-3 ปี แต่สุดท้ายแล้วคงไม่ต้องสงสัยว่าอย่างไรเสีย mobile payment ที่อยู่ในรูปแบบที่ใช้งานง่าย ต้นทุนเหมาะสมและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายคงจะมาถึงมือผู้บริโภคและธุรกิจทั่วโลกแน่นอน สิ่งที่น่าสนใจที่สุดเมื่อวันนั้นมาถึงก็คือ… ใครจะเป็นผู้กุมเกมนี้?
ที่มา:?Bloomberg