มีการคาดการณ์ตัวเลขจากทาง IDC ของประเทศออสเตรเลีย โดยประมาณการณ์ว่าในปี 2015 หรืออีกสี่ปีที่กำลังจะมาถึงนี้ 9 ใน 10 คน ของผู้ที่ใช้งานโทรศัพท์จะใช้งานโทรศัพท์ที่เป็นสมาร์ทโฟน และก็มีความเป็นห่วงจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของการใช้งานโทรศัพท์ เกี่ยวกับความปลอดภัยจากการโจรกรรมข้อมูลในโทรศัพท์ด้วย
โดย IDC ได้คาดการณ์ว่าอีกสี่ปีข้างหน้า จะมีสมาร์ทโฟนจำนวนกว่า 14.6 ล้านเครื่อง ถูกจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะทำให้ตัวเลขของจำนวนสมาร์ทโฟนในประเทศมีมากกว่าร้อยละ 92 ของโทรศัพท์ทั้งหมด และเกือบทั้งหมดมักจะมาพร้อมกับหน่วยความจำแบบการ์ดขนาดใหญ่ 2 หรือ 4 GB ทั้งนั้น
ยกเว้นก็ซะแต่โทรศัพท์ยอดนิยมจากค่าย Apple อย่าง iPhone ที่ไม่มีช่องสำหรับเพิ่มหน่วยความจำ โดยใช้เฉพาะหน่วยความจำภายในเท่านั้น ต่างจาก BlackBerry และ Nokia ที่การ์ดหน่วยความจำมีความปลอดภัย จากความสามารถในการเข้ารหัสที่การ์ดหน่วยความจำ (โดยความสามารถของตัวเครื่องหรือแอพฯ) โดย BlackBerry ถือเป็นเจ้าแรกที่ทำระบบการเข้ารหัสที่การ์ดหน่วยความจำ Sony Ericsson และ LG นั้นไร้ซึ่งระบบความปลอดภัยกับการ์ดหน่วยความจำใดๆ ส่วน Samsung และ HTC ไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
ในแง่ของความปลอดภัย เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไปไกลมาก การใช้งานอินเทอร์เน็ตก็เพิ่มมากขึ้น และแน่นอนว่าความปลอดภัยในการใช้งานก็อาจจะลดลง เพราะทำให้ช่องทางที่มิจฉาชีพ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณก็มีโอกาสเพิ่มขึ้น
โดย Ty Miller ซึ่งเป็น chief technology officer (CTO) ของที่ปรึกษาด้านความปลอดภัยด้าน IT บริษัท Pure Hacking ได้กล่าวว่า
การ์ดหน่วยความจำอย่าง microSD ที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย คือหนึ่งเป้าหมายของมิฉาชีพเหล่านี้ เพราะคุณๆ ส่วนใหญ่มักจะเก็บรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลต่างๆ เอาไว้ในนี้ ซึ่งรูปแบบการโจรกรรมนั้นก็อาจจะมาหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเข้ามาที่ตัวโทรศัพท์เวลาส่งซ่อม และเอาไปลงโปรแกรมอะไรก็ตาม บางครั้งเพียงแค่การคลิกหรือแตะเบาๆ บนบราวเซอร์เวลาท่องโลกอินเทอร์เน็ตก็เสี่ยงได้เหมือนกัน บ้างก็อาจจะมาในรูปแบบของแอพพลิเคชันที่สามารถโจรกรรมข้อมูลของคุณได้ง่ายๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เราอาจจะเห็นแค่การส่งไฟล์บางประเภทผ่าน Wi-Fi หรือสัญญาณบลูทูธเท่านั้น
หลายคนที่ทำโทรศัพท์หายไป อาจจะคิดว่ารหัสผ่านที่พวกเค้าป้องกันไว้ ก็คงปลอดภัยต่อการโจรกรรมข้อมูล แต่อย่าลืมว่าการ์ดหน่วยความจำเหล่านี้ไม่ได้ถูกป้องกันไปด้วย หรือข้อมูลในเครื่องก็ยังสามารถถูกแฮ็คเอาไปได้เช่นกัน นั่นเพราะหลายครั้งคนลืมคิดถึงความปลอดภัยของข้อมูลบนการ์ดเหล่านี้ และคิดเพียงแต่เรื่องของความบันเทิงเท่านั้น
ในความคิดเห็นของผู้เขียน: สำหรับบ้านเราแม้จะยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากสำหรับเรื่องของการแฮ็คข้อมูลในลักษณะดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตามข้อมูลในการ์ดก็ยังถือเป็นข้อมูลที่ส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพหรือวิดีโอที่คุณอาจจะไม่ต้องการให้ไปเปิดเผยที่ใด ดังนั้นสำหรับสมาร์ทโฟนที่มีแอพฯ เกี่ยวกับความปลอดภัย คุณก็ควรที่จะป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่าครับ…
ที่มา: The Australian