เมื่อนึกถึงช่วงเวลาพิเศษอย่างวาเลนไทน์สิ่งของที่นิยมมอบให้แก่กันถ้าไม่นับว่าเป็นดอกไม้สวยๆ หรือ ช็อกโกแลตสุดอร่อย ยังงั๊ย ยังไง ก็คงมีการ์ดอวยพรแนบไปด้วยซึ่งอาจจะแปรรูปและมีลักษณะแตกต่างกันไปบ้างตามกาลเวลา พอนึกย้อนกลับไปผู้เขียนจำได้ว่าเคยมีละครซีรีย์ญี่ปุ่นเรื่องหนึ่งชื่อ “With Love in Tokyo” บ้านเราเอามาแปลใหม่ใช้ชื่อว่า “สื่อรักออนไลน์” ซึ่งเข้าฉายในไทยตั้งแต่ปี 2000 (แต่ฉายในญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1998 แหน่ะ) ยุคนั้นเวลาจะสื่อสารกันบนโลกออนไลน์สำหรับคนที่อยู่ห่างไกลกันก็ใช้อีเมลเป็นหลักหรือไม่ก็ ICQ และสิ่งที่คุ้นเคยกันตั้งแต่เวลานั้นคือ อีการ์ด (Electronic Card) ไม่ว่าจากค่าย 123greeting , Bluemountain, Hallmark เป็นต้น จำได้ว่าถ้าเป็นช่วงวันเิกิดและปีใหม่จะได้รับอีเมลประเภทนี้เยอะพอสมควร
ย้อนหลังกลับไปเสียนาน เมื่อเวลาเปลี่ยนแปลงไปพฤติกรรมของผู้ใช้บนโลกออนไลน์ได้รับอิทธิพลมาจาก Web 2.0 ทำอะไรต่อมิอะไรก็ต้องผูกพันกับ social network เหล่าบรรดาเว็บไซต์รายเดิมก็ต้องปรับตัวที่ไหนมีผู้คนอยู่อย่าง facebook ก็ต้องเพิ่มฟีเจอร์อย่างการส่งอีการ์ดได้
แม้แต่ amazon เองก็ยังสามารถให้ผู้ใช้ส่งกิ๊ฟการ์ด? เลือกธีมวาเลนไทน์และส่งผ่านไปยัง facebook ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ก็ยังมีอีการ์ดในรูปแบบที่สร้างขึ้นจาก app บนเครื่องสมาร์ทโฟนอีกเพียบพร้อมความสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนวันสำคัญต่างๆ วันเกิดของเพื่อนๆ จาก facebook ได้ อย่าง app นี้มีชื่อว่า Yourcards หาโหลดกันได้ฟรีๆ เลย
แต่สำหรับใครบางคนที่ชอบการส่งการ์ดที่สามารถจับต้องได้จริงๆ ให้กับคนรัก Hallmark เค้าก็มีไอเดียเก๋ๆ จับ AR (Augmented Reality) มาผนวกตั้งแต่ปีที่แล้ว ใช้ชื่อสินค้าว่า “Webcam Greetings” แม้มันไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไรในภาคธุรกิจอื่น แต่กับธุรกิจการ์ดอวยพรแล้วเราจะเห็นว่ามีน้อยมาก Hallmark คาดหวังว่าถ้าเค้าทำตลาดดีๆ ในอนาคตอาจกลายเป็นภาคธุรกิจแรกๆ ที่ทำให้ AR สามารถเข้าถึงได้ง่ายและแพร่หลายในวงกว้าง
ซึ่ง AR การ์ดที่ว่านี้มีให้เลือกถึง 10 แบบราคาอยู่ที่ 2.99 เหรียญสหรัฐฯ และสำหรับเวอร์ชั่นพิเศษจะขายที่ 5.99 เหรียญสหรัฐฯ วิธีการใช้งานก็ง่ายๆ คือเปิดหน้าเว็บไซต์ของ Hallmark แล้วเอาการ์ดไปจ่อกับ Webcam เพื่อดูภาพ 3 มิติที่ถูกสร้างขึ้นมา พูดตรงนี้คงไม่เห็นภาพว่าแล้วต้องไปดูคลิปวีดีโอนี้กันดีกว่า เป็นวิธีบอกรักแบบน่ารักๆ ไปอีกแบบ
สำหรับเมืองไทยเราใครอยากเอาไอเดียเก๋ๆ นี้ไปผลิตการ์ดในช่วงเทศกาลต่างๆ ก็น่าสนใจดี โดยเฉพาะผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและเคยทำ AR คอนเทนต์มาอยู่แล้วรับรองต่อยอดได้อย่างสบาย ทั้งนี้ทั้งนั้นเทคโนโลยีดังกล่าวก็ยังเป็นเพียงแค่ลูกเล่นคงยังต้องวิเคราะห์ตลาด ดูกลุ่มเป้าหมายเราจะมีมากน้อยเพียงใดเพราะต้องอย่าลืมว่าลูกค้าต้องมีอุปกรณ์รองรับกันพอสมควร? หรืออาจจะเจาะกลุ่ม Niche Market กันก่อน ถ้าให้ดีต่อไปใครคิด Pattern ออกมาได้และรับ Personalize ตัว AR คอนเทนต์ถ้าดัดแปลงไม่เยอะมากและใช้เวลาไม่นานก็น่าสนใจดีนะคะ
สุดท้ายแล้วทั้งหมดที่เล่ามาแค่จะบอกถึงวิวัฒนาการของการ์ดที่ผ่านมาจนกระทั่งวันที่โลกออนไลน์กลับมาพบกับโลกแห่งความจริงอีกครั้งด้วย AR การ์ดที่ทำได้เก๋ๆ จริงๆ แล้วมาจากไอเดียล้วนๆ แค่เพียงกระดาษชิ้นเล็กๆ ที่ไม่ต้องอาศัยเทคโนโลยีอะไรเลยก็สามารถสร้างความประทับใจให้คนได้ (ประโยคสุดท้ายนี้ @nupink ทักมา คนเขียนฟังแล้ว อึ้มมม ใช่เลย) ว่าแต่แล้วการ์ดแบบไหนที่คุณชื่นชอบและโดนใจมากที่สุดเอ่ย? ^^
รูปภาพ : evandustintyrone.blogspot , Intomobile