การสำรวจตลาดอเมริกันพบว่าปี 2014 คือปีที่เม็ดเงินจากการร่วมทุนของนักลงทุนหรือ venture capitalist มีมูลค่าเพิ่มขึ้นแตะระดับ 4.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท โดยเม็ดเงินร่วมทุนในธุรกิจซอฟต์แวร์นั้นทุบสถิติสูงสุดในรอบ 14 ปีนับตั้งแต่ปี 2000
การสำรวจชื่อ MoneyTree Report ซึ่งสำนัก PricewaterhouseCoopers และสมาคมผู้ร่วมทุนแห่งชาติหรือ National Venture Capital Association ร่วมมือกันจัดทำขึ้นภายใต้ข้อมูลจากบริษัทวิจัย Thomson Reuters พบว่าเม็ดเงินร่วมทุนกว่า 4.83 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯนี้เป็นการลงทุนใน 4,356 ดีลที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯช่วงปี 2014 ที่ผ่านมา
ตัวเลขมูลค่าการร่วมทุน 4.83 หมื่นล้านเหรียญนี้คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปี 2013 มากกว่า 61% แต่ในเชิงของจำนวนดีล การคำนวณพบว่ามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเพียง 4% เท่านั้น
สิ่งที่เกิดขึ้นกลายเป็นผลสรุปว่า ปี 2014 คือปีแรกในประวัติศาสตร์ที่มูลค่าในแต่ละดีลมีราคาสูงลิ่ว โดยเฉลี่ยแล้วพบว่ามูลค่าเงินร่วมทุนนั้นทะลุ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯได้สบายเมื่อรวม 2 ดีลเข้าด้วยกัน
ผลสำรวจยังชี้ว่าบริษัทที่ได้รับเงินทุนมากที่สุดคือกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์และอินเทอร์เน็ต โดยมีการเพิ่มทุนมูลค่ากว่า 1.98 หมื่นล้านเหรียญ ครองส่วนแบ่งมากกว่า 41% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของเม็ดเงิน venture capital รวมทั้งหมดของสหรัฐฯตลอดปี 2014
แม้ธุรกิจซอฟต์แวร์จะเป็นพื้นที่ที่ได้รับการเพิ่มทุนมากที่สุด แต่ธุรกิจค้าปลีกและจัดจำหน่ายกลับเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีอัตราเม็ดเงินร่วมทุนเพิ่มขึ้นมากที่สุด ทำสถิติ 265% ขณะที่กลุ่มบริการด้านการเงินมีอัตราเติบโตน้อยที่สุดคือ 109%
การสำรวจยังพบว่าเงินร่วมทุนส่วนใหญ่ราว 47% ถูกใช้ไปกับบริษัทใหม่ที่เพิ่งเพิ่มทุนในครั้งแรกหรือ First-time financing โดยปี 2014 มีดีลถึง 40 ดีลที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “megadeal” เพราะมีมูลค่าเกิน 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ที่มา : VentureBeat