เชื่อว่าทุกคนเวลาดูคลิปหรือเล่นเกมแล้วจะมี Video Ads ขึ้นมาให้ต้องหัวร้อนและรีบปิด Ads ทันที ต่อให้น่าสนใจแค่ไหนแต่ถ้าช่วงเวลาที่ไม่ใช่ ยังไงก็ต้องกดผ่าน!
ได้ยินแบบนี้หลายแบรนด์คงต้องซับน้ำตา เพราะต่อให้รีบมารีบขายก็ยังไม่โดนใจสักที แม้จะใช้ Bumper Ads แอดที่สั้นเพียง 6 วินาที เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ดูคลิปด้วยความรวดเร็ว และไม่ถูกกวนใจมากเกินไปจนหัวร้อน แต่ก็ไม่วายโดนปิดอยู่ดี
ปัญหาคืออะไรรู้หรือไม่คะ นั่นเพราะว่าคลิปสั้นเพียง 6 วินาที สั้นเกินกว่าที่จะทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแบรนด์หรือรู้จักแบรนด์ ทำให้เป็นปัญหาว่าเราจะสื่อสารยังไงผ่าน Video Ads ให้โดนใจและดูคลิปเรานานมาขึ้น
วันนี้เราจึงมีทริคที่ช่วยให้กลุ่มเป้าหมายของคุณดูคลิปยาวนานมากขึ้น เพื่อนำไปปรับใช้กับ Video Ads ของตัวเองกันค่ะ
ภาพอลังจนต้องอึ้ง
คำว่าอลังนี้เป็นได้ทั้งไซไฟสุดยิ่งใหญ่หรือสีสันที่โดดเด่นจนต้องมองตาค้าง เพราะทำให้คนดูรู้สึกอึ้งกับ Ads ที่เห็นมากขึ้น ด้วยความที่น้อยมากๆ ที่คนดูจะดูคลิปจบ ฉะนั้นสิ่งแรกที่คนดูเห็นต้องเป็นจุดขายทันที
ซึ่ง Video Ads นี้เป็นของน้ำยาปรับผ้านุ่มดาวนีย์ที่ยาวเพียง 6 วินาทีเท่านั้น แต่ดูภาพแวปเดียวก็ต้องอึ้งกับความพริ้วไหวของชุดบวกกับสีสันที่ฉูดฉาดเข้าตา ทำให้เวลาคนดูจ้องในคลิปนานมากขึ้น ซึ่งบอกเลยว่าถึงจะแค่ 6 วินาที แต่ก็สะกดสายตาคนดูได้อย่างอยู่หมัด จน Youtube ประกาศเป็น Bumper Ads อันดับ 1 ในปี 2018
ให้ความสำคัญกับเสี้ยววิแรก
แค่เสี้ยววินาทีแรก เราต้องส่งคอนเทนต์ให้คนดูมีส่วนร่วมทันที เช่นเดียวกับโฆษณาไอติม Nestle ตัวใหม่ที่ทำเป็น Series 4 เรื่อง
สังเกตว่าแค่ Video Ads เล่นก็เล่าเรื่องทันที ไม่ต้องมีอะไรปูมาก่อนจนน่าเบื่อและกดข้ามไป อย่างในคลิปคือเป็นช็อตจะกินไอศกรีม ซึ่งคล้ายกับการมาคิสกัน แต่มีไอศกรีมคั่นกลาง ไม่ยืดเยื้อเยอะและยิ่งทำให้อยากดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่ออีก เวลาดูคลิปจึงนานขึ้นกว่าเดิม
ละคำว่า “ลองเลย”
ต้องบอกก่อนว่าคำเชื้อชวนก็เป็นสิ่งที่ดีทำให้คนที่เราพูดด้วยสนใจมากขึ้น แต่หากเป็น Video Ads คำว่า “ลองเลย” จะเป็นคอนเทนต์นึงที่ถูกส่งไป ซึ่งคำนี้เรียกว่าใช้เยอะ ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่เรื่อยๆ จนเอียนไปหมด ยิ่งสินค้าตัวใหม่ควรงดคำนี้ แต่สื่อสารในเวย์อื่นเช่น พูด Tagline ก่อนเข้าสู่คลิป หรือใช้ภาพสื่อแทนอย่าง Ads ของแบรนด์เครื่องสำอางค์อย่าง Bobbi Brown
ที่ใช้นางเเบบหน้าสดสาธิตรองพื้นตัวใหม่ ที่ให้ผิวโกลว์ธรรมชาติ ไม่ต้องมีคำว่า ลองเลย ใช้ภาพสื่อแทน ทั้งหมดนี้เกิดจากการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายว่าจะเสพสินค้าเราโดยตัดสินใจอะไร คำไหนควรใช้ไม่ควรใช้ ซึ่งการเข้าใจกลุ่มเป้าหมายคือพื้นฐานของกทำการตลาดทุกส่วน
คิดว่า Ads คือหนังสั้นช็อต CLIMAX
Video Ads จะถูกฉายเพียงไม่กี่สิบวิ ฉะนั้นเราต้องฉายช็อต climax ให้เท่านั้นหรือดูก่อน เพราะทำให้คนดูรู้สึกว้าวไปกับสินค้าที่เรานำเสนอ อย่างไอติมแห่งปีของ Nestle ที่เล่าเป็นหนังสั้น 4 เรื่องมาต่อกัน
ก็เพื่อสร้าง Story ย้ำความแห่งปีให้กับไอติมมากขึ้น ซึ่งทั้ง 4 คลิปนี้มี Story ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ใช้ซีน climaxในการนำเสนอ ทำให้อีโมชั่นของตัวแสดงพุ่งทะลุจอออกมา ทำให้คนดูอยากดูต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อย่างคลิปนี้ชื่อว่า เพื่อนแท้แพ้อะไร… คบมา 10 ปีก็เลิกได้ ซึ่งแสดงภาพเพื่อนสองคนกำลังมีเรื่องชกต่อย แต่บทของแต่ละคู่มีความฮา พร้อมชวนสงสัยว่าอะไรที่ทำให้ทั้งคู่จะเลิกคบกันได้ จนได้รับยอดวิวพุ่งพรวดไปทันที
หากมองว่า Video Ads คือหนังสั้น ที่ทำให้คนที่เราคิดว่าสนใจหนังของเราดู จะทำให้คนดูรู้สึกสนุกไปด้วยไม่ใช่จะมาขายของอย่างเดียว
Ads เหมือนการเล่าเรื่องให้คนดูได้รับข้อมูล แต่ความยากคือ Video Ads นี้จะเล่าในจังหวะไหนก็ไม่รู้ อาจจะเป็นช็อตที่คนดูอยากดูหรือจังหวะหัวร้อนตอนเล่นเกมที่พร้อมกดข้ามทันทีก็ได้
Ads จึงต้องโชว์คอนเทนต์ทันทีและให้ความสำคัญในช่วงไม่กี่วินาทีแรกมากที่สุด เพื่อดึงดูดให้คนอยากติดตามเรื่องราวต่อ ทำให้ Ads ของคุณมียอดดุที่นานมากขึ้นกว่าแต่ก่อนเเน่นอน ลองไปปรับใช้กับ Ads คุณดูนะคะ