นักการตลาดทุกคนล้วนต้องการให้แคมเปญหรือเรื่องราวของแบรนด์ตัวเองถูกส่งต่อจนเป็นกระแสหรือ Viral ที่โด่งดังข้ามคืน แน่นอนว่าเป้าหมายนี้ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมสำหรับใครที่เริ่มต้นด้วยบันได 5 ขั้นนี้
หัวใจสำคัญของการทำการตลาดในรูปแบบ Viral Content ที่เน้นการใช้เนื้อหาเพื่อสร้างกระแสให้ผู้พบเห็นเกิดการแชร์และบอกต่อบนโลกออนไลน์ นอกจากจะขึ้นอยู่กับเนื้อหาที่มีความโดดเด่นและดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังขึ้นอยู่กับองค์ประกอบสำคัญอีก 5 ข้อที่ถูกรวบรวมไว้โดยเว็บไซต์ Intersectionconsulting.com ซึ่งมีตั้งแต่ตำแหน่งวางปุ่มแชร์ ไปจนถึงลักษณะของเนื้อหา
1 ปุ่มแชร์ (Share Button) ในการนำเสนอ Viral Content พบว่า แบรนด์ส่วนใหญ่มักมองข้ามและละเลยกับปุ่มแชร์ในการนำเสนอบทความ แต่ในความเป็นจริงแล้วปุ่มแชร์นี่เองที่เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยให้การแชร์ต่อของเนื้อหาสามารถส่งต่อให้มีความแพร่หลายมากขึ้น ในการนำเสนอเนื้อหาทุกครั้งจะต้องวางตำแหน่งของปุ่มแชร์ไว้ทั้งก่อนและหลังของบทความเสมอ
2. มีความโดดเด่นและแตกต่างของเนื้อหา (Scarcity) โดยเนื้อหาที่นำเสนอจะต้องมีความโดดเด่นแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ รวมถึงยังต้องมีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นหนึ่งเดียวที่ไม่สามารถพบเห็นได้จากที่ไหนได้อีก ซึ่งเนื้อหาประเภทนี้จะช่วยเป็นกระตุ้นทำให้ผู้อ่านรู้สึกให้เกิดความสนใจและส่งผลทำให้เกิดการบอกหรือแชร์ต่อมากยิ่งขึ้น
3. สามารถสรุปและจับใจความได้อย่างรวดเร็ว (Skimabiliy) จากการสำรวจพฤติกรรมของผู้ชมเว็บไซต์พบว่า ผู้ชมส่วนใหญ่นิยมการอ่านเนื้อหาในลักษณะแบบเป็นกลุ่มๆ (Nugget) หรือเพียงบางส่วนของเนื้อหาเท่านั้น ดังนั้นในการนำเสนอเนื้อหาแบรนด์ต้องมั่นใจว่า เนื้อหาที่นำเสนอจะต้องสามารถสรุปและจับใจความสำคัญของเนื้อหาได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายเพียงแค่การอ่านผ่านๆ (Skim) เท่านั้น โดย Dr. Jacob Nielsen ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการออกแบบและการใช้งานเว็บไซต์เคยระบุไว้ว่า พฤติกรรมของผู้ชมเว็บไซต์ส่วนใหญ่บริโภคเนื้อหาเพียงแค่ 20% ของเนื้อหาที่นำเสนอทั้งหมดบนเว็บไซต์
4. นำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และสามารถปฎิบัติได้จริง (Practical Utility) โดยเนื้อหาประเภทนี้จะเป็นการกระตุ้นทำให้ผู้อ่านรู้สึกอยากทดลองและนำไปปฎิบัติตาม ซึ่งหากสามารถนำไปใช้งานได้จริงก็จะยิ่งส่งผลทำให้เกิดการแชร์ต่อมากยิ่งขึ้น
5. มีความสม่ำเสมอ (Consistency) หมายถึง แบรนด์จะต้องมีความสม่ำเสมอในการโพสบทความ และไม่เพีบงเท่านั้นบทความที่นำเสนอจะต้องเป็นเนื้อหาที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและมีความเป็นมืออาชีพในสายตาของผู้อ่านแล้ว ยังจะส่งผลทำให้เนื้อหาสามารถถูกแชร์ต่อบนโลกออนไลน์ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ที่มา: Intersectionconsulting.com