ตั้งแต่เกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การเป็นตัวเร่งให้ผู้คนและธุรกิจต้องปรับตัว ซึ่งรวมถึงการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส (Contactless) ผู้คนเริ่มเปลี่ยนมุมมองและพฤติกรรมให้กับการชำระเงินรูปแบบนี้ ธุรกิจเองเริ่มก็ต้องเริ่มปรับตัวเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค
เมื่อวันที่ 18 มิ.ย วีซ่าผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิตอล ได้เปิดเผยผลสำรวจทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภคประจำปี ซึ่งรายละเอียดแสดงให้เห็นถึงทัศนคติและแนวโน้มพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคชาวไทย
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย ระบุถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปและความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภค รวมถึงการร่วมมือให้ความรู้ในเรื่องประโยชน์ของการชำระเงินแบบคอนแทคเลส จึงมองเห็นแนวโน้มการเติบโตของการชำระเงินรูปแบบนี้
เหตุผลที่ใช้วิธีการชำระแบบคอนแทคเลส
68% ไม่ต้องการถือเงินสด
58% ต้องการใช้นวัตกรรมใหม่ในการชำระเงิน
55% เป็นวิธีการชำระที่รวดเร็วกว่าวิธีการอื่นๆ
ความถี่ของการชำระเงินในรูปแบบคอนแทคเลส
82% ใช้บัตรคอนแทคเลสในการใช้จ่ายอย่างน้อยหรือมากกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์
จุดที่ใช้จ่ายด้วยบัตรคอนแทคเลสมากที่สุด
ระหว่างการเดินทางในต่างประเทศ (17 เปอร์เซ็นต์)
ซูเปอร์มาร์เก็ต (12 เปอร์เซ็นต์)
ร้านค้าปลีกต่างๆ (11 เปอร์เซ็นต์)
แนวโน้มสู่สังคมไร้เงินสด
82% สามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่พึ่งเงินสดและหันมาใช้การชำระเงินในรูปแบบไร้เงินสดแทนในชีวิตประจำวัน
72% เลือกชำระเงินในรูปแบบไร้เงินสดเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า
28% เชื่อว่าพวกเขาสามารถใช้ชีวิตอยู่ได้มากกว่าหนึ่งเดือนโดยไม่พึ่งพาการใช้เงินสด
58% ชื่ออยู่ว่าพวกเขาสามารถอยู่โดยไม่ชำระเงินผ่านเงินสดได้เพียง 24 ชั่วโมง
ประโยชน์ที่สังคมจะได้รับ
58% ความสะดวกสบาย
56% เพิ่มความสามารถในการวางแผนทางการเงิน
55% ลดความเสี่ยงจากการโจรกรรม
44% ส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงิน
แม้ว่าเทคโนโลยีด้านการชำระเงินเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมให้สังคมไทยก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด แต่การร่วมมือของผู้บริโภค ภาคธุรกิจ และภาครัฐเป็นปัจจัยสำคัฐที่สุดที่จะช่วยสนับสนุนให้เกิดการชำระเงินแบบคอนแทคเลสมากขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตก้าวไปข้างหน้า