หากเอ่ยถึงผู้ให้บริการเครือข่ายการชำระเงิน เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงชื่อของ Visa ปรากฏขึ้นมาในใจกันบ้างไม่มากก็น้อย ซึ่งปัจจุบัน Visa ในฐานะนวัตกรรมทางการเงินเบื้องหลัง ในการช่วยสถาบันการเงินต่างๆ ให้บริการแก่ลูกค้าก็กำลังปรับบทบาทของตัวเองอยู่อย่างน่าสนใจ
โดยในสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ก็ต้องยอมรับว่า Visa กำลังเจอความท้าทายใหม่ นั่นก็คือ การเกิดขึ้นของ Fintech และอิมแพคที่ Fintech มีต่ออุตสาหกรรมการเงินโลกอย่างรุนแรง ซึ่งหลายๆ ตัวอย่างที่ผ่านมาเข้ามาทำให้ Visa มองเห็นว่า การปิดตัว และการหวงห้ามทรัพยากร เทคโนโลยี แนวคิด ฯลฯ เอาไว้กับตัวเองอาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจอีกต่อไปแล้ว ตรงกันข้าม การแสดงออกถึงความใจกว้าง และการเปิดแพลตฟอร์มให้นักพัฒนารุ่นใหม่ๆ ได้เข้ามาเห็น เข้ามาเรียนรู้ เข้ามาใช้งานจนเกิดเป็นการร่วมมือระหว่างกันอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
นั่นจึงนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Visa ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์มสำหรับนักพัฒนาในชื่อ Visa Developer ที่ให้นักพัฒนาเข้ามาหยิบใช้คุณสมบัติต่างๆ ของ Visa ไปพัฒนาต่อยอดได้ด้วยตนเอง (มีมากมายหลายร้อย APIs) ซึ่งนั่นจะทำให้ Visa สามารถพลิกตนเองขึ้นมามีบทบาทอีกครั้งในอุตสาหกรรมการเงินได้อย่างสวยงาม และสามารถรับมือกับความท้าทายต่างๆ ได้ดีขึ้นด้วย
โดยนักพัฒนาซอฟต์แวร์จากสถาบันการเงิน บริษัทเทคโนโลยี ร้านค้า สตาร์ทอัปต่างๆ สามารถดึงระบบการชำระเงินของ Visa ผ่าน APIs, SDKs และสามารถจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องได้ด้วยตนเอง ยกตัวอย่างเช่น Visa Token Service ที่เป็น API สำหรับช่วยให้สถาบันการเงินสามารถออกรหัส Token สำหรับยืนยันตัวบุคคลเพื่อความปลอดภัยในการชำระเงินจากการซื้อสินค้าผ่านอุปกรณ์มือถือได้
“Fintech สำคัญมากๆ สำหรับโลกยุคต่อไป ซึ่งถ้าเราทำระบบปิดแบบเดิม สตาร์ทอัปเขาจะเข้ามาไม่ได้ นี่จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Visa คือเราเปิดระบบ มี Developer Program ก็ให้เขาเข้ามาดูว่าจะใช้ประโยชน์อะไรจากเครื่องมือที่ Visa เตรียมไว้ให้ได้บ้าง เพราะเราเชื่อว่า การร่วมมือกับสตาร์ทอัปนี้ก็เพื่อให้เขาสร้างสเกล มีผู้ใช้งานเยอะๆ ให้ได้” สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการ Visa ประจำประเทศไทยกล่าว
จากตัวเลขล่าสุดในปี 2559 ประเทศไทยมีร้านค้าที่รับบัตร Visa แล้วประมาณ 500,000 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงมีการใช้เครื่องรูดบัตรแบบพกพาสำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (mPOS) แล้วประมาณ 50,000 เครื่อง โดยได้รับความนิยมมากในธุรกิจประกันภัยด้วย
ที่มา: Visa