ด้วยอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนและอินเทอร์เน็ตบนมือถือกว่า 1,900 ล้านรายนั้น ทำให้การใช้จ่ายผ่านมือถือเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย โดยจำนวนผู้ใช้งานโมบายเพย์เม้นท์จะมาจากกลุ่มที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองหลัก และ 1.3 ล้านรายหรือประมาณ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด
โจ คันนิ่งแฮม ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการความเสี่ยงของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า เอเชียแปซิฟิก มียอดการชำระเงินมากถึง 11 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยที่ 55% ของการทำธุรกรรมแบบเงินสด ซึ่งยังมีเงินกว่า 6.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่สามารถเปลี่ยนเป็นการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอล
ในขณะที่นวัตกรรมใหม่ๆ ได้เข้ามามีบทบาทในการสร้างเสริมประสบการณ์การชำระเงินที่ดีให้กับผู้บริโภค แต่กุญแจสำคัญในการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลนั้นขยายวงกว้างออกไปคือการเชื่อมโยงความปลอดภัยเข้ากับการใช้งานที่สะดวก ยิ่ง ecosystems ของระบบการชำระเงินเติบโตเร็วเท่าใด ความปลอดภัยยิ่งต้องเข็มแข็งขึ้นเท่านั้น ในขณะเดียวกันต้องไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในการใช้งานของทั้งร้านค้าและผู้บริโภค
สำหรับในประเทศไทย 75% ของการทำธุรกรรมยังคงเป็นในรูปแบบเงินสด อย่างไรก็ดี ด้วยจำนวนของผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ทโฟนเพิ่มมากขึ้น และเทคโนโลยีที่รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส (contactless payment) ที่แพร่หลายกว่าเดิม จะช่วยให้การชำระเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น การชำระเงินในซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านกาแฟ โรงภาพยนต์ เป็นต้น
การใช้จ่ายผ่านมือถือสะดวกขึ้นเรื่อยๆ เลยนะคะ ยิ่งมีความปลอดภัยมาช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นเชื่อว่าในอนาคตคนไทยจะยิ่งเปลี่ยนมาเป็นการจ่ายผ่านมือถือมากกว่าเดิมได้ไม่ยาก