คิดว่าระยะนี้ใครที่อยู่ในแวดวงดิจิทัลคงจะเห็นแคมเปญขนาดใหญ่ “เค้า คือ ใคร” ของแบรนด์วังขนายบนช่องทางออนไลน์และสื่อ Out of Home กันแล้วนะครับ เพราะว่าวางสื่อได้ค่อนข้างครอบคลุม งานนี้ thumbsup เลยไปสืบที่มาของแคมเปญนี้มาฝากกันสักหน่อยว่าเขาต้องการสื่ออะไรบ้าง มีแนวทางการสื่อสารแคมเปญอย่างไรบ้าง มาดูกันเลย
ทางตัวแทนของน้ำตาลวังขนายเจ้าของแคมเปญ “เค้า บอก ว่า” ออกมาเผยว่า ที่มาที่ไปของแคมเปญเกิดจากความพยายามที่ต้องการจะสื่อสารข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับอุตสาหกรรมน้ำตาลให้ประชาชนเข้าใจให้ถูกต้อง โดยเล่าที่มาว่า ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าน้ำตาลที่เรากินกันทุกวันนี้มีสีขาวได้เพราะใช้สารฟอกขาว และยังไม่มีใครมาประกาศให้ประชาชนรับรู้ชัดเจนว่าความจริงแล้วประเทศไทยเลิกใช้สารฟอกขาวผลิตน้ำตาลทรายขาวมานานกว่า 20 ปีแล้ว
วังขนายจึงลุกขึ้นมาทำการสื่อสาร เพื่อที่จะแก้ไขความเข้าใจที่ผิดๆ ให้ผู้บริโภครับทราบความจริงว่าน้ำตาลทรายขาว ทุกถุง ทุกยี่ห้อ ไร้สารฟอกขาวมานานกว่า 20 ปีแล้ว และต่อไปนี้วังขนายจะเป็นผู้นำของตลาดน้ำตาลที่จะออกมาบอกความจริงเกี่ยวกับน้ำตาลในหลายๆ เรื่อง เพื่อให้ผู้บริโภคไม่หลงกลต่อคำกล่าวอ้างหรือความเชื่อผิดๆ อีกต่อไป
สื่อสารอย่างไร?
พอคิดจะสื่อออกมาทางโลกออนไลน์ หากเล่าตรงๆ แบบที่เกริ่นมาก่อนหน้านี้ ก็คงไม่น่าสนใจเท่ากับการนำประเด็นความเชื่อของคนไทยที่มีมาอยู่เดิมมาแชร์ออนไลน์ แล้วสร้างความสงสัย ว่าใครกันนะ? ที่เป็นคนพูดเรื่องเหล่านี้ แล้วความเชื่อเหล่านี้จะเชื่อถือได้แค่ไหน รวมถึงคนที่พูดคือใคร กระตุกต่อมคนไทยให้เริ่มตั้งคำถามบนความเชื่อต่างๆ ที่เคยได้ยินกันมานาน
สร้างกระแส ผ่านทาง Hashtag “#เค้าบอกว่า” และ “#เค้าคือใคร” ในขณะเดียวกันก็มีการร่วมมือกับ Online Influencer หลายๆ ท่านที่จะออกมาตั้งคำถามท้าทายความเชื่อเก่าๆ (อย่างในรูปนี้คือ Cutto ที่ออกมาแชร์ในสไตล์ของตัวเอง) ในขณะเดียวกันก็จะมีการสื่อสารข้อความ #เค้าคือใครผ่านทางสปอตวิทยุที่เล่าเรื่องราวความเชื่อของคนไทย รวมถึงการพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ M2F
เมื่อความสงสัยก่อตัวขึ้นถึงจุดที่ใครๆ ก็อยากรู้ที่มา บิลบอร์ดปริศนาทั้ง 3 ป้าย ก็จะถูกเปลี่ยนจากเรื่องราวความเชื่อมาเป็นการกระตุ้นให้สังคมค้นหาข้อเท็จจริงและที่มาของความเชื่อ ด้วยการบอกชัดๆว่า “เค้าบอกว่า…เค้าคือใคร” และสังคมตามหาความจริงได้ที่เว็บไซต์ ThailandWhoSaid.com ซึ่งในนั้นจะมีภาพยนตร์สั้นจากฝีมือผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังอย่าง “เอส คมกฤษ ตรีวิมล” มาให้ชมกันด้วย
ภาพยนตร์สั้นออนไลน์ 6 เรื่องจาก “เอส คมกฤษ” ในเว็บไซต์ จะบอกเรื่องราวเกี่ยวกับ 6 ความเชื่อสุดฮิตของคนไทย ดังต่อไปนี้ครับ พวกเราลองดูทั้ง 6 คลิปก็บอกได้เลยว่าสนุกใช่ย่อย
ให้สาวบริสุทธิ์ปักตะไคร้แล้วฝนจะไม่ตก
จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน
มองลอดหว่างขาจะเห็นผี
คนหัวล้านมักใจน้อย
คนเงียบมักซาดิสม์
นกขี้ใส่หัวแล้วจะโชคดี
6 เรื่องราวความเชื่อจาก “วังขนาย” และ “เอส คมกฤษ” ที่อยากท้าว่าหากคุณเชื่อแล้วจะเป็นจริงหรือไม่ แล้วใครเป็นคนบอกว่าจะเป็นจริง พร้อมทั้งให้ผู้ที่ติดตามได้แชร์ความเชื่อของคุณเอง สิ่งที่คุณเองเป็นคนบอกว่าคุณเชื่อผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อสนับสนุนให้คนไทยเห็นความสำคัญของการเลือกที่จะเชื่อในข้อเท็จจริงมากกว่าการเชื่อโดยไร้ที่มา
เมื่อความเชื่อเริ่มเป็นที่พูดถึง และสังคมเริ่มเห็นถึงฉุกคิดถึงการที่ควรจะเลือกเชื่อข้อเท็จจริงมากกว่าคำที่พูดต่อๆ กันมา ก็ถึงเวลาที่ “วังขนาย” จะพูดถึงความจริงที่เกิดขึ้นในวงการน้ำตาลมากว่า 20 ปีผ่านทางบิลบอร์ดแห่งความจริงที่เราใช้มาตลอด กับประเด็นความจริงที่อยากให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า น้ำตาลทรายขาวทุกถุง ทุกยี่ห้อ ไร้สารฟอกขาวมานานแล้ว
ความเชื่อที่ผู้บริโภคเคยรับรู้เกี่ยวกับน้ำตาลทรายขาวและสารฟอกขาว เป็นความเชื่อผิดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมผู้บริโภคมาโดยตลอด วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ผู้บริโภคควรรับรู้ถึงความจริงจากปากของวังขนาย เพื่อให้ผู้บริโภคได้มีสิทธิ์ใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจในครั้งถัดไป
พอได้รู้เรื่องราวลึกๆ ของแคมเปญแบบนี้ ก็ชวนคิดนะครับว่าสงสัยคงถึงเวลาที่เราคงจะต้องมาทบทวนล่ะครับตัวเราเองก็เคยเลือกเชื่อสิ่งที่ “เค้าบอกว่า” มาแค่ไหน ลองเข้าไปดูว่าคนอื่นแชร์ความเชื่อส่วนตัวไว้อย่างไรที่เว็บไซต์ ThailandWhoSaid.com และทาง YouTube ได้เลยครับ
บทความนี้เป็น advertorial