Warrix มีที่มาจากคำว่านักรบ หรือ Warrior สื่อถึงการเป็นแบรนด์สัญชาติไทย ที่พร้อมทุ่มเทและมุ่งมั่นในการแข่งขันทุกสนาม ด้วยการนำเทคโนโลยี Hydro-Tech มาลงในใยผ้าเพื่อผลิตเสื้อที่ดูดซับเหงื่อและป้องกันรังสียูวี ทั้งยังระบายอากาศได้ดี กับราคาที่ผู้บริโภคจับต้องได้ น่าจะช่วยสร้างแรงกระเพื่อมให้คนไทยอยากได้เสื้อรุ่นนี้มาเป็นเจ้าของ
นายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต กล่าวว่า หลังจากเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ออกแบบและจัดจำหน่ายชุดช้างศึกนาน 4 ปี ตั้งแต่ 2560-2563 รวมทั้งได้รับลิขสิทธิ์ผลิตชุดแข่งขันให้กับสโมสรฟุตบอลต่างๆ มากมาย ทำให้การเติบโตของ Warrix เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทางด้านของการทำตลาด เราไม่ได้เน้นเชิงรุกมากนัก แต่ตั้งใจทำสินค้าให้มีความหมาย เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกภักดีต่อแบรนด์และตัดสินใจซื้อได้ไวขึ้น รวมทั้งการใช้คนรุ่นใหม่มาเป็นพรีเซ็นเตอร์นั้น ก็ช่วยให้มีการกล่าวถึงในวงกว้างมากขึ้น เพราะวงการกีฬาไม่ควรจำกัดอยู่แค่เฉพาะผู้มีใจรักในกีฬาแต่ละประเภท แต่ควรจะเปิดกว้างให้แก่คนไทยทุกคนที่ชอบและเชียร์คนไทยด้วยกัน
ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ยื่นข้อเสนอมูลค่า 400 ล้านบาทหรือปีละ 100 ล้านบาท นาน 4 ปี แบ่งเป็นเงินสด 40 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์ 60 ล้านบาท เพื่อเข้ามาเป็นหนึ่งในทีมงานผู้ผลิต คาดว่าสิทธิ์จัดทำเสื้อทีมช้างศึกจะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทปีละ 100-300 ล้านบาทและยังได้สร้างการรับรู้แบรนด์ทั้งในและต่างประเทศ โดยหลังครบสัญญา บริษัทจะมียอดขายแตะ 500 ล้านบาทส่วนยอดขายปีนี้ตั้งเป้าที่ 180 ล้านบาทโต 20% จากปี 2558 (ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ)
ทั้งนี้ บริษัทจะใช้งบเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซึ่งมากกว่าปีที่ผ่านมาหลายสิบล้านบาท เพื่อเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่ม โดยจะเน้นช่องทางออนไลน์เป็นหลัก เพราะพฤติกรรมของคนรุ่นใหม่จะนิยมค้นหาข้อมูลและสั่งซื้อผ่านออนไลน์มากขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถเข้ามาซื้อผ่านหน้าเว็บไซต์ของบริษัทโดยตรงอย่าง https://www.warrix.co.th/ หรือ Lazada, Shopee, 24Shopping, Supersport, Mc Jeans เป็นต้น
ชุดแข่งขันฟุตบอลทีมชาติไทยปีนี้ มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ (1) ชุดแข่งเหย้า – สีน้ำเงิน, (2) ชุดแข่งเยือน – สีแดง, (3) ชุดแข่งที่ 3 – สีขาว, (4) ชุดผู้รักษาประตูเหย้า – สีเขียว และ (5) ชุดผู้รักษาประตูเยือน – สีเทา มีจุดเด่นอยู่การใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีล้ำสมัยมาตรฐานเดียวกับสโมสรชั้นนำของโลก
สำหรับ รุ่นของเสื้อ อย่าง Warrix Cheer Jersey จะมี 2 แบบ และ 2 สี คือน้ำเงินและแดง เสื้อรุ่นนี้ช่วยในการระบายอากาศได้ดี ด้วยนวัตกรรม COMBALITE เนื้อผ้าแบบโพลีเอสเทอร์แบบ 100% เพื่อให้ใส่สบายและทีมเชียร์ สามารถใส่ไปเชียร์ได้แบบสบายๆ ราคา 390 บาท
Warrix Replica Jersey จะเป็น เสื้อที่ดีไซน์แบบ Reversible สวมใส่ได้ 2 ด้าน โลโก้ที่หน้าอกเสื้อ สีทอง พิมพ์ด้วยวัสดุ Gold Metalic High Density ให้ความหมายของการเป็นนักรบ ดูดซับเหงื่อได้ดี มาในแพคเกจสวยงาม ป้องกันน้ำและความชื้นจากอากาศด้านนอกไม่ให้มาทำลายเนื้อผ้าได้ ราคา 990 บาท และ Warrix Player Jersey เสื้อแข่งสำหรับนักกีฬาเท่านั้น ไม่มีวางขาย ที่หน้าร้านใดๆ ทั้งสิ้น
นอกจากนี้ ลูกค้าที่จองเสื้อสำหรับแข่งมาแล้ว 3 หมื่นตัว เสื้อเชียร์ ประมาณแสนตัว บริษัทตั้งปีสิ้นปีนี้ ไว้ว่าเสื้อทั้งสองกลุ่มจะสามารถขายได้กว่า 7 แสนตัว ด้วยราคาเสื้อที่ไม่สูงมาก และคุณภาพชั้นดีไม่แพ้ระดับโลกเชื่อว่าจะสามารถทะลุเป้าได้ไม่ยาก
ทางด้านช่องทางการจัดจำหน่ายต่างๆ ได้แก่ บูทวอริกซ์หน้า Q-Stadium ชั้น M ฝั่ง The Glass Quartier ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์, ช้อปวอริกซ์ สาทร ซอย 10, ช้อปช้างศึกเมกะสโตร์ เดอะมอลล์โคราช, เซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ ผ่านระบบ 24 Shopping, ซูเปอร์สปอร์ต, สปอร์ตมอลล์, FBT, Ari, Big C, FM99, ร้านแม็คยีนส์, มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี, Lazada, Shopee, Thai Ticket Major, ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ, Fanage: @WarrixThailand, Line ID: @warrix.co.th, Website: www.warrix.co.th, Warrix Call center: โทร. 0-2117-1300