ในยุคนี้การตะลุยธุรกิจเพียงลำพังเริ่มกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เว้นแม้แต่โลกออนไลน์และโลกดิจิตอลที่เราจะเริ่มเห็นความร่วมมือและการทำกิจกรรมรูปแบบใหม่ๆ เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในวันนี้เราลองมาดู 2 ตัวอย่างล่าสุดว่าโลกของแอพพลิเคชั่นไปถึงไหนกันแล้ว
ตัวอย่างแรกคือกรณีของแอพพลิเคชั่นแชต WeChat ที่กำลังมาแรงมากในตอนนี้ด้วยตัวฟีเจอร์ที่แตกต่างจากแอพพลิเคชั่นอื่นๆ และรองรับภาษาไทยด้วย (ล่าสุดเวอร์ชั่นบน Android ได้รับการอัพเดทจนเหมือน iPhone แล้ว และมีฟีเจอร์ Moments เพิ่มขึ้นมาที่คล้ายกับ Timeline ด้วย) โดยตัว WeChat เองได้ทำการตลาดรูปแบบใหม่ คือการเล่นกิจกรรมแจกแต้มบน Facebook ซึ่งจะว่าไปแล้วกิจกรรมการแจกแต้มไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ แต่การที่แอพพลิเคชั่นที่ใช้เชื่อมโยงคนด้วยกัน หรือมีลักษณะของการเป็น social application หนึ่งทำกิจกรรมข้ามไปแจกแต้มบนอีกสังคมออนไลน์ถือเป็นเรื่องที่เราไม่ได้เห็นกันมาก่อน ซึ่ง WeChat ทุ่มแจกแต้ม Facebook Credits ให้กับผู้ที่ลงทะเบียนใช้งานใหม่สูงสุดถึง 1,000 แต้ม นับว่าเป็นอีกรูปแบบการอาศัยกระแสความแรงของสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลกอย่าง Facebook เป็นตัวช่วยผลักดันการใช้งานของ WeChat นั่นเอง เรียกว่า WeChat ใช้กลยุทธ์เปลี่ยนคู่แข่งเป็นพันธมิตรได้อย่างน่าสนใจไม่น้อย
สำหรับใครที่ยังไม่ได้ลอง WeChat สามารถดาวน์โหลดได้จากทั้ง App Store และ Google Play แล้ว
สำหรับกรณีที่ 2 ก็ยังคงเกี่ยวกับ Facebook ซึ่งหลังจากที่ Facebook ได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเข้าซื้อกิจการของ Instagram แอพพลิเคชั่นแชร์รูปภาพชื่อดังแล้ว หลายๆ คนก็สงสัยว่า Facebook จะทำอะไรต่อกับ Instagram ซึ่งแม้ก่อนหน้านี้ Mark Zuckerberg จะเคยออกมาระบุว่า Facebook จะเรียนรู้วิธีการพัฒนาฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อเอามาปรับใช้กับ Facebook และจะสนับสนุนให้ Instagram เติบโตต่อไปอย่างอิสระนั้น ล่าสุด Facebook ก็ปล่อยแอพพลิเคชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Facebook Camera ออกมาให้ผู้ใช้งาน iOS ได้ใช้งานกันซึ่งมันช่างคล้ายกับ Instagram มากๆ
Facebook Camera ที่ว่านี้คล้ายคลึงกับ Instagram จนเหมือนจะเป็นคู่แข่งกันเลยทีเดียวเพราะตัวแอพพลิเคชั่นมาพร้อมกับความสามารถในการตกแต่งภาพด้วย filter ที่คล้ายกับ Instagram แต่รูปที่ถ่ายด้วย Facebook Camera หลังจากตกแต่งแล้วจะขึ้นไปยัง Facebook เท่านั้น และผู้ใช้สามารถที่จะอัพโหลดได้ทีละหลายๆ รูปพร้อมกันด้วย
ภาพประกอบจาก?iTunes
Patrick Moorhead จากนิตยสาร Forbes ระบุว่า แท้จริงแล้วการที่ Facebook เข้ามาซื้อกิจการของ Instagram นั้นก็เพื่อกำจัดคู่แข่งออกไปจากตลาดมากกว่า ซึ่งแม้จะยังไม่มีการออกมาให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ แต่ก็ดูเหมือนว่า Facebook Camera น่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน (เฉพาะ iOS ในช่วงแรกนี้) สามารถสนุกกับการถ่ายภาพบน Facebook ได้มากขึ้นและได้ประสบการณ์ในการแบ่งปันรูปได้ใกล้เคียงกับการใช้ Instagram ซึ่งหากมองในมุมหนึ่ง ผู้ใช้ Facebook เป็นหลักก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ Instagram ควบคู่อีกต่อไปหากเพื่อนส่วนใหญ่อยู่บน Facebook อยู่แล้ว แต่ในอีกมุมหนึ่ง เนื่องจากสังคมบน Instagram เป็นคนละรูปแบบกับสังคมบน Facebook ดังนั้นการใช้งาน Instagram ก็สามารถที่จะยังอยู่ต่อไปได้เพราะจุดประสงค์ที่แตกต่างกันนั่นเอง ซึ่งหากผลลัพธ์ออกมาเป็นในเงื่อนไขข้อหลังมากกว่า การที่ Facebook ซื้อกิจการของ Instagram นี้ก็จะเป็นอีกรูปแบบของการเปลี่ยนคู่แข่งให้เป็นพันธมิตรและเติบโตไปพร้อมๆ กันได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ดี นี่เป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่แสดงให้เห็นถึงรูปแบบธุรกิจที่ไม่น่าจะเชื่อมโยงเพื่อต่อยอดกันได้เพราะมีองค์ประกอบที่เป็นคู่แข่งกันอยู่ แต่กลับพลิกสถานการณ์ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างน่าสนใจ ต่อจากนี้ไป เราน่าจะได้เห็นรูปแบบใหม่ๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ เพราะการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ธุรกิจต้องสร้างพันธมิตรท่ามกลางสมรภูมิมากขึ้นเรื่อยๆ
ในโอกาสต่อไป เราลองมาดูตัวอย่างอื่นๆ กันอีกครับ โปรดติดตามได้ที่ thumbsup นะครับ
แหล่งข้อมูลอ้างอิง:?Tech in Asia?,?CBS News