Site icon Thumbsup

ถึงเวลาที่แฝดผู้น้องของ Twitter อย่าง Weibo จะบุกตลาดโลกบ้างแล้ว

Weibo หรือคู่แฝดของ Twitter เวอร์ชั่นภาษาจีนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในแดนมังกร เพราะชาวเน็ตในจีนสามารถใช้แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารได้เหมือนที่คนทั่วโลกใช้ Twitter แต่ในวันนี้ Weibo เริ่มเติบโตและได้รับเสียงเรียกร้องให้พัฒนาเวอร์ชั่นสำหรับตลาดนอกประเทศแล้ว ต่อไปนี้ Weibo ก็จะกำลังจะเข้าสู่ตลาดโลก แล้วนี่จะเป็นการไปแย่งตลาดของแฝดพี่หรือเปล่า?

คงไม่แปลกนักหากเว็บดังของจีนหลายๆ แห่งกำลังเตรียมพร้อมเพื่อจะบุกตลาดสากล นั่นก็รวมไปถึง Weibo ที่เหมือนกับ Twitter อย่างกับแกะ แต่ในขณะที่หลายๆ คนกำลังสงสัยว่าการที่ Weibo จะพัฒนาเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเพื่อให้ผู้ใช้ในประเทศอื่นๆ สามารถใช้งานได้นั้น จุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งผู้บริหารของ Weibo ก็ได้บอกมาระบุว่า การที่พัฒนาเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษนั้น บริษัทไม่ได้ต้องการที่จะไปแข่งกับ Twitter ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย แต่ Weibo เพียงต้องการจะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ในตลาดโลกสามารถเข้าถึงผู้บริโภคในจีนได้สะดวกขึ้นเป็นหลักมากกว่า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นองค์กรบริษัทต่างๆ ที่ต้องการติดต่อกับลูกค้าชาวจีนนั่นเอง

ตัวแทนของ Weibo ยังได้ระบุเพิ่มอีกว่า ที่ผ่านมามีความต้องการของผู้ใช้และบริษัทนอกประเทศจีนที่ต้องการติดต่อกับคนจีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเมื่อ Weibo เวอร์ชั่นสากลเริ่มให้บริการนั้น บริษัทจะเปิดตัวพร้อมกับพันธมิตรระดับโลก 2 ราย ได้แก่ FlipBoard และ Instagram ซึ่งเป็น 2 แอพพลิเคชั่นบน iOS ที่เป็นที่นิยมอย่างมากนั่นเอง โดยที่ทั้ง 2 แอพพลิเคชั่นจะมีการฝังการเชื่อมต่อไปยัง Weibo เพื่อให้ผู้ใช้สามารถแชร์ข่าวสารหรือรูปภาพไปยังสังคมออนไลน์แห่งนี้เพื่อแชร์กับเพื่อนชาวจีนได้ทันที

ที่มา:?TechNode

ความเห็นผู้แปล: ความพยายามของ Weibo ในการเปิดให้ผู้ใช้นอกประเทศจีนสามารถเชื่อมต่อกับผู้ใช้ในจีนได้นั้นถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจาก Twitter ถูกห้ามใช้งานในประเทศ (ยกเว้นเสียว่าผู้ใช้ในจีนจะเปิดใช้บริการ VPN ที่เปิดทางให้สามารถเข้าเว็บต่างๆ ได้อย่างอิสระ) ดังนั้นการที่ Weibo เปิดช่องทางนี้จะทำให้องค์กรและผู้ใช้ต่างประเทศจำนวนไม่น้อยหันมาสมัครใช้บริการเพื่อเชื่อมต่อกับเพื่อนชาวจีนได้ง่ายขึ้น ซึ่งหากมองในด้านของมาตรการควบคุมสื่อของจีนแล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหามากนัก เนื่องจาก Weibo ยังถือเป็นบริษัทจีน ดังนั้นการควบคุมต่างๆ รวมถึงการกรองข้อมูลก็จะยังเป็นไปตามที่รัฐบาลจีนควบคุมได้ ในทางตรงกันข้าม การเปิดบริการรูปแบบนี้จะเปิดโอกาสให้รัฐบาลสามารถสังเกตพฤติกรรมการใช้งานของชาวโลกออนไลน์ในจีนและต่างชาติได้ง่ายขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการเปิดให้อีกหลายๆ บริการสามารถขยายช่องทางและฐานลูกค้าสู่ตลาดสากลได้ง่ายขึ้นด้วย คงต้องจับตาดูว่าบริการสัญชาติจีนรายใดจะเป็นรายต่อไปที่จะขยับไปสู่ตลาดโลก และ Weibo จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดบนโลกออนไลน์แดนมังครได้อย่างไรบ้าง