Whitney Wolfe Herd เป็น CEO บริการหาคู่ชื่อ Bumble ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งแอปคนเหงาอย่าง Tinder ด้วย สาวสวยหุ่นดีผมทองวัย 30 ปีคนนี้ไม่เพียงมีมูลค่าทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 290 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ยังมีฝันไม่ธรรมดาคือการสร้าง “female internet” อินเทอร์เน็ตผู้หญิงที่จะปฏิวัติความเหลื่อมล้ำที่มีในสังคมโลกนานหลายพันปี
Whitney Wolfe Herd ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Fast Company ว่าบริษัท Bumble ไม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมาเพื่อแข่งขันทางธุรกิจเพื่อดึงดูดผู้คนเท่านั้น แต่เป้าหมายหลักคือการเปลี่ยนพฤติกรรมและทัศนคติของคนในสังคม โดย Bumble เป็นแพลตฟอร์มนัดเดทออนไลน์ที่ผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเริ่มสนใจก่อน ซึ่ง Whitney ยอมรับว่าเป็นเป้าหมายที่ท้าทายมากจนเธอเองก็ลุ้นตลอดเวลา
ตามประวัติ Whitney ก่อตั้ง Bumble ในปี 2014 บนแนวคิดขจัดความอยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ผู้หญิงรู้สึกว่ามีอำนาจที่จะเลือกความเคลื่อนไหวก้าวใหญ่ในชีวิตได้เต็มที่ แนวคิดนี้ทำให้ Whitney จ้างพนักงานส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง (82%) โดยผู้บริหารเกือบทั้งหมดก็เป็นผู้หญิง ซึ่งส่งผลกับผลิตภัณฑ์โดยตรงเพราะ Whitney เลือกเดิมพันครั้งใหญ่ด้วยการกำหนดให้ผู้ใช้แอป Bumble ไม่เน้นออกเดท แต่เน้นช่วยให้ผู้หญิงค้นหาเพื่อน และเครือข่ายเพื่อนร่วมอาชีพ
นักเคลื่อนไหวมือฉมัง
Whitney มีดีกรีเป็นนักเคลื่อนไหวโดดเด่นมาก เช่นปีที่แล้ว หลังจากเกิดเหตุคดีกราดยิงในพลิริดา Whitney ด็สั่งแบนภาพปืนโดยไม่แคร์ว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ Whitney ยังทุ่มเต็มที่เพื่อทำโครงการโฆษณา Super Bowl ปี 2019 ที่นำแสดงโดยเซเรน่า วิลเลียมส์เพื่อชักชวนแฟนเทนนิสให้มาร่วมสนับสนุน Bumble Fund ซึ่งเป็นหน่วยลงทุนธุรกิจในบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยี และที่สำคัญคือการประสบความสำเร็จในการล็อบบี้ให้หน่วยงานรัฐบาลเท็กซัส ออกกฏหมายทำให้การส่งภาพเปลือยที่ไม่พึงประสงค์เป็นสิ่งผิดกฎหมายในเท็กซัส
กฎหมายนี้ผ่านร่างอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือนเดียวกับที่ Bumble จุดพลุตัวกรองระบบ AI ซึ่งสามารถลบภาพลามก เช่น ภาพอวัยวะเพศชาย ได้ก่อนที่ผู้ใช้จะเห็น
เป้าหมายของ Bumble คือการเข้าไปในส่วนที่ผู้หญิงมีปัญหาเรื้อรัว จนเกิดความไม่สมดุลในโลก (ในแง่ของความเสมอภาค) ซึ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอก็จะสร้าง “อินเทอร์เน็ตผู้หญิง” ที่เน้นความเสมอภาคให้ผู้หญิงได้
เจ็บหนักจากคดี?
ในปี 2012 สาวสวยอย่าง Whitney มีส่วนช่วยก่อตั้งแอปออกเดทอย่าง Tinder ซึ่งเน้นคุณสมบัติเรื่องภาพถ่ายเพื่อดึงดูดความสนใจ แต่เธอก็ลาออกไปในปี 2014 หลังจากที่แตกหักกับอีกร่วมก่อตั้งอีกรายอย่าง Justin Mateen โดยสาว Whitney ฟ้องร้องในคดีล่วงละเมิดทางเพศและเลือกปฏิบัติ ซึ่งภายหลังก็มีการตกลงกันได้
สำหรับ Whitney เธอมองว่า Tinder มีจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่ใน Bumble เพราะ Whitney เชื่อว่าอาจมีคนจำนวนมากที่ต้องการแอปหาคู่ที่ใช้งานง่าย ขณะเดียวกันก็ต้องการทางเลือกที่มากกว่า ทำให้ Bumble มีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ผู้หญิงที่เบื่อกับคำขอเป็นเพื่อนจำนวนมาก รวมถึงความรู้สึกอื่นที่ผู้หญิงหลายคนไม่ปลื้มใน Tinder และแอปจับคู่อื่นๆ
ปัจจุบัน Bumble มีผู้ใช้มากกว่า 66 ล้านคนใน 150 ประเทศ คาดว่าจะมีรายรับ 300 ล้านดอลลาร์ในปี 2019 ผู้ใช้สามารถชมภาพคนน่าสนใจได้ง่าย หรือจะจับคู่ใหม่เพื่อล้างการจับคู่ที่หมดอายุได้ เบื้องต้น Whitney แจ้งนโยบายกับพนักงานแล้วว่าในปีหน้า บริษัทจำเป็นต้องสร้างธุรกิจระหว่างประเทศ สถิติล่าสุดคือรายได้เนื้อๆ 162 ล้านเหรียญสหรัฐ บนข่าวลือว่า Bumble จะเปิดขาย IPO หรือไม่ก็ระดมทุนครั้งใหม่ในเร็ววันนี้
ที่มา: : FastCompany