Site icon Thumbsup

ทำไมปี 2019 แบรนด์ควร Collaboration กับธุรกิจที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

ในครึ่งปีที่ผ่านมามีการ Collaboration ที่น่าสนใจหลายเคสเช่น KFCxCarnival ออกเป็นคอลเลคชั่นพิเศษที่สาวกทั้งสองแบรนด์ต้องตามหาการเจ้าละหวั่น วงการ Esport อย่าง Garena ที่จับมือกับ Ichitan สร้าง Rare item ใต้ฝาอิชิตัน

หรือแบรนด์ดังอย่าง Bar B Q Plaza ที่ออกเเคมเปญร่วมกับ Pizza Hut ที่ออกชุดหมูบาร์บีฮัทเอาใจแฟนคลับทั้งสองแบรนด์ และอีกหลายเคสมากมายที่ต้อนรับกระแส Collaboration ที่มาในปีนี้อย่างท่วมถ้น แต่ทำไมปีนี้ถึงเลือกที่จะ Collaboration ที่เรียกว่าแตกต่างกันสุดขั้ว บทความนี้มีคำตอบค่ะ

การแข่งขันสูงเกินไป

การแข่งขันตอนนี้เดือดซะยิ่งกว่าแดดในไทยเสียอีก เพราะทุกแบรนด์สามารถเข้ามาแข่งขันได้อย่างง่ายดาย เรียกว่าเป็นตลาดแข่งขันสมบูรณ์ที่ไม่มีแบรนด์ไหนเป็นเจ้าตลาดจริงๆ และยิ่งแข่งขันมาก การจะสร้างอะไรที่ธรรมดาก็คงต้องโดนดีดออกจากการแข่งขัน จริงๆ แล้วปีนี้แบรนด์ที่ Collaboration สำเร็จมักเลือกสิ่งที่แตกต่างไปเลย แบบเอ๊ะ! แบบนี้ก็ได้หรอ ถึงจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย

 

ต้องสร้างกระแส

แต่ก่อนแค่มีกระแสไม่ได้หมายความว่ายอดขายจะตามมาด้วย แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นแบบนั้น กระแสคือสิ่งที่แข่งขันยากที่สุด เพราะส่งผลต่อยอดขายโดยตรง ยิ่งกระแสโซเชียลรุนแรงที่สุดแล้ว  

ฉะนั้นเราต้องสร้างกระแสมันขึ้นมาเอง ถึงแม้จะต้องใช้งบ PR สูงขึ้นก็ตาม เพราะการสร้าง Collaboration ที่เป็นจุดสร้างกระแสได้เอง จะช่วยให้การ PR ง่ายขึ้นและผลที่ได้กลับมาก็คุ้มค่าการลงทุนที่จ่ายไป

 

ไม่แตกต่างอยู่ไม่ได้

ต้นปีที่ผ่านมาถึงเราจะเห็นหลายแบรนด์ Collaboration ได้อย่างน่าสนใจ แต่จริงๆ ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์ Collaboration แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะทำในสิ่งที่คนไม่ว้าว หรือสิ่งที่อ๋อก็เคยเห็นแล้วนิ  ไม่เห็นจะแตกต่างเลย

ความสำเร็จของแบรนด์ ที่ Collaboration จึงแตกต่างออกมา แต่ถ้าจะให้จับสูตรสำเร็จเบื้องต้นคือ แบรนด์อาหาร x เครื่องแต่งกาย จะได้รับความสนใจมากที่สุด เพราะเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายเป็นปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิต คนจึงความสำคัญทั้งสองสิ่งนี้พร้อมกัน

หรืออย่างล่าสุดที่ รองเท้า BATA กับทาง Coca Cola ได้ร่วมมือกันสร้างรองเท้ารุ่นใหม่ที่มีดีไซน์เก๋ๆ ด้วยจำนวนที่จำกัดก็ทำให้เกิดกระแสตอบรับที่ดีและขายหมดอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าสร้างความคาดหวังถึงสินค้าใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีก งานนี้เหล่าแฟนของทั้งสองแบรนด์ก็ย่อมไม่พลาดในสินค้าเหล่านี้

 

หมดยุคที่แบรนด์ดังสองแบรนด์มา Collaboration กันเฉยๆ แล้ว ถือว่าปีนี้เป็นอีกปีที่เปิดมิติใหม่ๆ ด้าน Collaboration และเห็นความสนุกของการแผนการตลาดเต็มโซเชียลและออฟไลน์ เชื่อว่าปีหน้ายังมีอะไรสนุกๆ ที่แบรนด์จะสื่อสารออกมาอีกแน่นอน อย่าลืมติดตามกันนะคะ