ณ เวลานี้ Facebook ยังคงเป็นโซเชียลมีเดียที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก ระยะนี้หันมาเอาจริงกับวิดีโอคอนเทนต์มากขึ้น เริ่มตั้งแต่การเพิ่มฟีเจอร์แสดงยอดวิวของวิดีโอบนหน้าฟีด และปรับอัลกอริธึ่มให้วิดีโอที่อัปขึ้นบน Facebook โดยตรงถูกเห็นได้ง่ายกว่าวิดีโอที่อัปโหลดผ่าน YouTube
Smallbiztrends ฟันธงว่าแบรนด์ต่างๆ ที่ใช้ Facebook เป็นช่องทางในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายก็คงต้องรวมเอาวิดีโอบน Facebook ไปเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การใช้โซเชียลมีเดียของแบรนด์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าอยากให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น
มาร์ค ซักเกอร์เบิร์กบอกว่าถ้าย้อนกลับไปสัก 5 ปีก่อนหน้านี้ จะเห็นว่าคอนเทนต์ส่วนมากเป็นตัวหนังสือ ในตอนนี้มันก็เป็นรูปภาพ และในอนาคตมันก็จะเป็นภาพเคลื่อนไหวหรือวิดีโอนั่นเอง เมื่ออินเทอร์เน็ตถูกพัฒนามากกว่านี้ ผู้คนก็จะต้องแชร์วิดีโอกันมากขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ตอนนี้คอนเทนต์ที่เป็นรูปภาพเป็นเครื่องมือหลักๆ ที่นักการตลาดใช้ เพราะมันจะช่วยให้แบรนด์สามารถเล่าเรื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ตัวหนังสือเฉยๆ และวิดีโอก็คือพัฒนาการในขั้นต่อไปของมัน อะไรก็ตามที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยภาพนิ่งเพียงภาพเดียวหรือตัวหนังสือก็สามารถอธิบายได้ด้วยวิดีโอ
นั่นคือเหตุผลที่ธุรกิจควรเตรียมแนวทางการใช้วิดีโอคอนเทนต์บน Facebook เอาไว้โดยเฉพาะ ถึงแม้ว่า YouTube จะเป็นเจ้าพ่อแห่งวิดีโอคอนเทนต์ แต่ Facebook ก็กำลังจะตีตื้นขึ้นมาในเร็วๆ นี้ ดูได้จากผลการสำรวจที่เราเคยนำเสนอไปแล้ว และเมื่อระบบรองรับการอัปโหลดหรือแชร์วิดีโอมากขึ้น ผู้คนก็จะแชร์วิดีโอจากคนอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น
และเมื่อเทรนด์เหล่านี้มันมาถึง ธุรกิจที่เตรียมแผนและทีมงานสำหรับวิดีโอบน Facebook ก็จะได้ประโยชน์ไปเต็มๆ จากการใช้ฟีเจอร์วิดีโอบน Facebook ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะโตช้าไปหน่อยก็เถอะ แต่คาดว่าในช่วงนี้ก็ยังไม่น่าจะมีอะไรมาแซงหน้าไปได้
ปล. thumbsup เคยเขียนถึงการให้ความสำคัญของวิดิโอบน Facebook มาแล้ว ลองอ่านกันได้ครับ “Video” รูปแบบเนื้อหาที่ Facebook ให้ความสำคัญในปีนี้