แทนที่จะทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ แต่บริษัทซอฟต์แวร์แห่งนี้เลือกจะเปลี่ยนไปเป็น 4 วันเท่านั้น ผลลัพท์ที่ได้ถือว่าดีมากแต่ก็ยังต้องปรับให้เข้ากับสถานการณ์ ซึ่งเมื่อปรับแล้ว บริษัทสามารถตอกย้ำภาพแนวคิดการทำงานแบบใหม่ได้ชัดเจน โดยเฉพาะการเน้นเรื่องการทำงานให้ “สมาร์ทกว่าเดิม” ไม่ใช่การ “ทำงานให้หนักกว่าเดิม”
บริษัทซอฟต์แวร์นี้มีชื่อว่า Wildbit เป็นบริษัทขนาดเล็กในเมืองฟิลาเดลเฟียที่รู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตแอปพลิเคชัน Postmark ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับจัดส่งอีเมลทรานเซกชันให้ลูกค้าของทุกธุรกิจ เพื่อให้ธุรกิจมั่นใจว่าลูกค้าจะไม่เซ็งเพราะได้รับบริการล่าช้าหรือตกหล่นไป
ก่อนหน้านี้ Wildbit ก็เหมือนบริษัททั่วไปที่เปิดทำการ 5 วัน แต่การเปลี่ยนแปลงเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วง 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา โดย Wildbit ทดลองให้พนักงานมีโอกาสพักผ่อนมากขึ้น ทุกสุดสัปดาห์จึงกลายเป็นวันหยุดยาว 3 วัน ทำให้ Wildbit เป็นหนึ่งในบริษัทล่าสุดที่ทดลองกำหนดวันทำงานต่อสัปดาห์ให้น้อยลง
แรงบันดาลใจมาจากหนังสือ
การทดลองนี้เกิดขึ้นได้เพราะผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Natalie Nagele ได้แรงบันดาลใจจากหนังสือชื่อ Deep Work ซึ่งย้ำว่าพนักงานที่เป็นกลุ่ม creative worker หรือทีมที่ทำงานสร้างสรรค์จะสามารถทำผลงานยอดเยี่ยม และจะมีโฟกัสเต็มที่ภายในเวลาเพียง 4 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้น
เมื่อมองมาที่บริษัทตัวเอง เธอจึงคิดว่าถ้าหากทีมสามารถทำงานแบบเดียวกับที่ทำได้ใน 32 ชั่วโมง แต่พนักงานได้รับวันหยุดพิเศษ ก็จะเป็นประโยชน์แท้จริงต่อชีวิตส่วนตัวของทุกคน แถมยังสามารถชาร์จพลังให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง การทดสอบจึงเริ่มต้นขึ้นบนนโยบายเดิมของบริษัท ที่มีนโยบายให้พนักงานปรับสมดุลย์เรื่องเวลาส่วนตัวและเวลางาน พนักงานจึงมีตารางการทำงานที่ยืดหยุ่นอยู่แล้ว
ไม่แค่ลาไปรับลูกจากโรงเรียน พนักงานของ Wildbit ยังสามารถลาไปวิ่ง 2 ชั่วโมงได้ด้วย โดยช่วงก่อนที่จะขยับไปลดเวลาทำงานเหลือ 4 วันต่อสัปดาห์ Wildbit มีธรรมเนียมแจ้งให้พนักงานหยุดทำงาน หากพบว่ามีการทำงานเกิน 40 ชั่วโมง ทำให้พนักงานไม่ต้องทำงานในช่วงสุดสัปดาห์หรือตอนกลางคืน
ทั้งหมดนี้ Nagele ย้ำว่า Wildbit ทำแบบนี้ได้เพราะบริษัทให้ความสำคัญกับการโฟกัสที่งานและความสามารถในการทำให้ทีมได้เนื้องานดีที่สุด ควบคู่ไปกับโอกาสของทุกคนที่จะได้ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างมีคุณภาพ เนื่องจากเวลานอกที่ทำงานถือเป็นส่วนสำคัญของชีวิตมนุษย์ ซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับเวลางาน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นเท่านั้น
บอกลูกค้าไม่ได้ว่าหยุดวันศุกร์
พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมา Wildbit จึงเริ่มเปิดทำการ 4 วันต่อสัปดาห์ (หยุดศุกร์-อาทิตย์) ปัญหาที่พบคือ Wildbit ไม่อาจบอกลูกค้าได้เต็มปากว่าบริษัทปิดทำการวันศุกร์ จุดนี้ทำให้บริษัทต้องปรับเปลี่ยนนโยบายบางส่วน เนื่องจากทีมซัพพอร์ตจะต้องทำงานในวันศุกร์ แล้วสลับไปหยุดงานวันจันทร์แทน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมทั้งบริษัท
Wildbit พบว่าทีมงานมีการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ทุกคนจะพยายามแก้ปัญหาเองเพราะต้องการเลี่ยงการประชุมที่ไม่จำเป็น ขระที่หลายคนวางแผนโครงการล่วงหน้าเองเพื่อให้งานดินเร็วขึ้น นอกจากนี้ ทีมงานส่วนใหญ่ของบริษัทยังทำงานทางไกล ดังนั้นบริษัทจึงเน้นให้พนักงานไม่รู้สึกว่าต้องตรวจสอบอีเมลหรือ Slack ต่อเนื่องตลอดเวลา เนื่องจากการอยู่ใน Slack ตลอดเวลาจะรบกวนสมาธิในการทำงาน
อีกสิ่งที่ Wildbit ได้รับจากการปรับเวลาทำงาน คือทีมงาน Wildbit ลดการขัดจังหวะกันเอง เหมือนในหลายบริษัทที่พนักงานอาจจะขัดจังหวะเพื่อนร่วมงานหรือชวนคุยด้วยการตะโกนถามสิ่งที่อยากรู้ตอนนั้น แต่พนักงานของ Wildbit จะรอจนถึงวันรุ่งขึ้น หรืออาจจะส่งเป็นอีเมลซึ่งทำให้ทีมงานยังมีสมาธิครบถ้วน
สิ่งที่ Wildbit ทำคือการตรวจสอบระบบการทำงานของบริษัทอย่างต่อเนื่อง จุดนี้ Wildbit พบว่าเวลางานในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาวนั้นไม่เหมือนกัน เนื่องจากฤดูหนาวเป็นช่วงเวลาที่กลางวันสั้น ฟ้ามืดเร็ว แต่ฤดูร้อนนั้นกลางวันยาว และฟ้ามืดช้า จุดนี้ Wildbit ยอมรับว่ากำลังพิจารณาที่จะเปลี่ยนรูปแบบการหยุดต่อเนื่อง 3 วันต่อสัปดาห์ มาเป็นเวลาทำงานที่สั้นลงเหลือบ่าย 3 โมง แต่ทำการ 5 วัน โดยการเปิดทำการ 4 วัน (หยุดวันศุกร์ด้วย) อาจจะพิจารณาให้มีผลเฉพาะฤดูร้อนเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวของ Wildbit ถือว่าสอดคล้องกับหลายบริษัท ที่พยายามทดสอบและสนับสนุนการทำงานบนจำนวนชั่วโมงต่อสัปดาห์ที่น้อยลง เช่น บริษัทในสวีเดนที่ทดลองลดเวลางานลงเหลือ 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือบริษัทในนิวซีแลนด์ที่ทดลองลดเวลางานเหลือ 4 วัน ทุกรายพบว่าพนักงานมีความเครียดลดลง และทุกคนทำงานราบรื่นดีเหมือนเดิม
กรณีของ Wildbit ผู้บริหารพบว่าทีมงานสามารถเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ให้บริการของ Wildbit ได้มากกว่าเดิมในช่วงปีแรกที่ทดลองลดเวลางานลง ความสำเร็จนี้ทำให้ Wildbit ประหลาดใจและต่อยอดการลดเวลางานออกไป
ทั้งหมดนี้ผู้บริหารยอมรับว่า เพราะพนักงานทราบว่าจะมีงานทำเพียง 4 วัน ทุกคนจึงทำงานได้อย่างชาญฉลาด เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนและลดการผัดวันประกันพรุ่งได้ บนรางวัลคือวันหยุดสุดสัปดาห์ 3 วันที่ทุกคนจะพร้อมเริ่มต้นการทำงานอย่างเต็มที่กว่าเดิมในวันจันทร์.
ที่มา: : FastCompany