ที่จริงข่าวนี้ผ่านมาได้ 5 วันแล้วแต่เรายังไม่ค่อยเห็นเว็บไทยนำเสนอกันเลยต้องเอามาบอกต่อกันสักหน่อย ในเมืองจีนเขามีเว็บไซต์วิดีโอแบบเดียวกับ YouTube ชื่อว่า Youku (ยูคุ) มีคู่แข่งชื่อว่า Tudou (ทูโด้)? Youku เป็นเจ้าตลาดอยู่ด้วยส่วนแบ่งตลาด 21.8% ในขณะที่ Tudou มีสัดส่วน 13.7% ซึ่งเป็นการซื้อด้วยมูลค่าหุ้นทั้งหมดมีมูลค่าสูงกว่า 1 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว เมืองจีนเขาซื้อขายกันหนักไม่เลวนะครับ มาดูรายละเอียดกันดีกว่าทำไมสูงอย่างนั้น?
รายละเอียดคราวนี้ก็คือ ทั้งสองบริษัทจะรวมตัวกัน ภายใต้ชื่อใหม่ว่า “Youku Tudou Inc.” โดยผู้ถือหุ้น Youku จะเข้าไปถือหุ้นในบริษัทใหม่นี้ประมาณ 71.5%? ในขณะที่ผู้ถือหุ้น Tudou จะได้ถือ 28.5% ส่วนด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Youku ก็จะเข้าไปบริหาร Youku Tudou Inc. ในขณะที่ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Tudou จะหลีกทางให้และเข้าไปนั่งอยู่ในบอร์ดบริหารแทน
ทั้งสองเว็บไซต์นี้ทำธุรกิจขายลิขสิทธิ์เนื้อหาเป็นหลัก โดยต่างบริษัทต่างเข้าตลาดหุ้นของจีนมาหลายปีแล้ว และต่อสู้ขับเคี่ยวมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์กันและกันมาตลอดจนถึงขั้นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกันวุ่นวาย? ส่วนในเชิงตัวเลขทางธุรกิจก็สูงใช้ได้ เพราะ Youku มีมูลค่าตามราคาตลาดสูงถึง? 19,300 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Tudou มีมูลค่า 402 ล้านเหรียญ
คนไทยเรียนรู้อะไรจากข่าวนี้?
ตรรกะมันตรงไปตรงมา ประเทศจีนมีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตมหาศาลกว่า 513 ล้านคน มูลค่ามันเลยสูงครับ การควบรวมกิจการครั้งนี้เลยเป็นแบบช้างชนช้าง โดยผมคาดการณ์เล่นๆ ครับว่ามันก็ต้องตีมูลค่ากันจากจำนวนผู้เข้าชม ศักยภาพทางธุรกิจ และมูลค่าแบรนด์รวมๆ กัน แต่กระนั้นทั้งคู่ก็ยังขาดทุนนะครับ เมื่อไม่นานมานี้ Tudou เองบอกว่าตัวเองขาดทุน 81.2 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Youku ขาดทุน 27.2 ล้านเหรียญ ส่วนตัวผมเคยเจอ “Gary” ผู้ก่อตั้ง Tudou ในประเทศไทยขณะที่เดินทางมาบรรยายถึงบริษัทตัวเอง เขาเล่าว่าเมื่อ 15 ปีที่แล้วเขาเดินทางจากยุโรปไปอยู่ในเมืองจีน และได้เป็นเขยจีนเลยหาทางสร้างกิจการในจีน ก็เลยทำเว็บไซต์นี้ขึ้นมา ทำไปทำมาเติบโตและมีคนเข้าดูกว่าวันละ 250 ล้านคน ล่าสุดก็ถือว่ารวยกันไป…
ดูเมืองจีนเขามีการซื้อขายแบบนี้คิดถึงบ้านเราแล้วแอบเศร้าครับ เพราะระบบเงินทุน ตลาด Tech Startup บ้านเรายังไม่แข็งแรง ทั้งที่เรามีศักยภาพ แต่เรายังขาดคนที่จะเข้ามาร่วมกันสร้างธุรกิจตรงนี้ เพราะยังไม่มีคนเริ่มมากนัก แต่ถ้าคุณอ่านอยู่ แล้วคิดว่าวันหนึ่งเราอาจเป็นอย่างข่าวนี้ได้บ้าง ก็บอกเรานะครับ เรายินดีเป็นสื่อให้ Tech Startup ไทยทุกราย
ที่มา: TechWireAsia