Site icon Thumbsup

ตั้งรหัสผ่านอย่างไรไม่ให้โดนแฮกง่าย ๆ ? [infographic]

cats
รู้หรือไม่ว่าปัจจุบัน ชาวออนไลน์มีจำนวนการเข้าเว็บไซต์ (ที่ต้องใช้รหัสผ่าน) โดยเฉลี่ยมากกว่า 25 แห่ง แต่ปรากฏว่าผู้ใช้ส่วนใหญ่มีรหัสผ่านเพียง 6 รหัสในใจเท่านั้น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่า 33% ยอมรับว่าใช้รหัสผ่านเดียวเปรี้ยวทุกเว็บไซต์ ถือเป็นหนึ่งในหลายสถิติน่าตกใจที่สะท้อนว่าชาวออนไลน์ทุกคนต้องปรับตัวอย่างจริงจัง

บทความที่นำเสนอในวันนี้เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คือการใช้งาน “รหัสผ่าน” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นปราการด่านสำคัญที่ช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเหล่าแฮกเกอร์ แต่ผลปรากฏว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่กลับละเลยและมองข้ามในการตั้งพาสเวิร์ดที่แตกต่างกันในแต่ละเว็บไซต์อย่างน่าตกใจ

รหัสผ่าน (Password) ที่เราใช้งานกันอยู่ในปัจจุบันมีใช้งานกันตั้งแต่สมัยก่อนที่ไม่มีการใช้งานคอมพิวเตอร์ ซึ่งรหัสผ่านได้ถูกดัดแปลงในการใช้งานอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน โดยรหัสผ่านเป็นสิ่งสำคัญที่ถูกใช้งานเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวต่างๆ เช่น บัตร ATM, อีเมล, ธุรกรรมออนไลน์ และการรักษาความปลอดภัยบนเว็บไซต์

เว็บไซต์ Instantcheckmate.com ได้ทำการสำรวจถึงพฤติกรรมของผู้ใช้งานรหัสผ่านซึ่งพบว่า ปัจจุบันผู้ใช้งานส่วนใหญ่ต้องมีรหัสผ่านเพื่อใช้งานเฉลี่ยมากถึง 25 แบบ แต่ผลปรากฏกลับพบว่าในความเป็นจริงแล้วกลับมีการใช้รหัสผ่านที่แตกต่างกันเพียงแค่ 6 แบบเท่านั้น รวมถึงยังผู้ใช้งานมากถึง 33% ที่ใช้รหัสผ่านเดียวกันกับการใช้งานทุกเว็บไซต์ ซึ่งถือว่ายังดีกว่าสำหรับ 73% ของกลุ่มตัวอย่างที่บอกว่าเคยใช้รหัสผ่านเดียวกับหลายเว็บไซต์

ที่สำคัญ กลุ่มตัวอย่างกว่า 32% ยังมีการบันทึกรหัสผ่านลงบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นการเปิดช่องโหว่และเพิ่มความเสี่ยงให้เหล่าแฮกเกอร์สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น

การตั้งรหัสผ่านนับว่าเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยปกป้องการเข้าถึงของเหล่าแฮกเกอร์ ซึ่งหากมีความซับซ้อนก็จะยิ่งเพิ่มระดับในการรักษาความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยจุดอ่อนในการตั้งรหัสผ่านที่พบว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการโดนแฮกข้อมูล ได้แก่ การใช้ชื่อคนรักมาตั้งเป็นรหัสผ่าน โดยผลการสำรวจพบว่ามีผู้หญิงกว่า 30% ที่ตั้งชื่อคนรักมาตั้งเป็นรหัสผ่าน ในขณะที่ฝ่ายชายก็เช่นเดียวกันมีการตั้งชื่อแฟนเป็นรหัสผ่านอยู่ที่ 5% รวมถึงยังมีความเสี่ยงอื่นๆ อย่าง การใช้ชื่อจริงตั้งเป็นรหัสผ่าน, การตั้งรหัสผ่านน้อยกว่า 6 ตัวอักษร และใช้คำว่า “Password” ตั้งเป็นรหัสผ่าน

รายชื่อรหัสผ่าน 10 อันดับที่พบว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการโดนแฮกข้อมูลมากที่สุดในปี 2012 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย password, 123456, 12345678, abc123, qwerty, monkey, letmein, dragon, 1111 และ baseball

สิ่งสำคัญในการตั้งรหัสผ่านที่ต้องนึกถึงอยู่เสมอ คือ การใช้จำนวนตัวอักษรมากกว่า 8 ตัวขึ้นไป, ใช้รูปแบบของตัวอักษรที่แตกต่างกัน เช่น ตัวพิมพ์ใหญ่ ตัวพิมพ์เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์ (@$&), มีการทดสอบควาแข็งแรงปลอดภัยของรหัสผ่านที่ใช้ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ที่ทำการสมัคร, มีการตั้งระบบเพื่อกู้รหัสผ่านและมีการเปลี่ยนรหัสผ่านเฉลี่ยราว 2 ครั้งต่อปี

ส่วนข้อห้ามในการตั้งรหัสผ่านที่สำคัญ ได้แก่ ห้ามใช้ข้อมูลหรือชื่อที่เป็นสาธารณะและรู้จักกันดีอย่าง ชื่อ วันเกิดหรือชื่อลูกมาตั้งเป็นรหัสผ่าน, ห้ามจดรหัสผ่านบนกระดาษหรือข้อมูลซึ่งเป็นการบอกใบ้ถึงรหัสผ่าน, ห้ามใช้รหัสเดียวกันในหลายๆ แอคเคาท์, อย่าลืม Log out ทุกครั้งเมื่อต้องไปใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ และห้ามบอกรหัสผ่านให้ผู้อื่นรู้อย่างเด็ดขาด

หวังว่าข้อมูลทั้งหมดที่นำเสนอเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนหันมาให้ความสำคัญในการตั้งรหัสผ่านกันมากขึ้นนะครับ

ที่มา: Visual.ly