งานมหกรรมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกอย่าง CES หรือชื่อเต็มว่า The 2013 Consumer Electronics Show กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่วันข้างหน้าแล้ว และหนึ่งในเทคโนโลยีที่จะเปิดตัวในงานนี้ นอกจากทีวี มือถือล้ำๆ ก็ยังมี ฟังก์ชั่นใหม่จาก YouTube ที่เรียกว่า “Send to TV” ด้วย มันคืออะไร น่าสนใจอย่างไร ติดตามชมกันครับ
ฟังก์ชั่น Send to TV คือฟังก์ชั่นที่เปิดให้เราดูคลิป YouTube บนทีวีได้นั่นเอง การที่จะทำอย่างนั้นได้ต้องมีมือถือระบบ Android และ Google TV วิธีก็ง่ายๆ ครับ เพียงแค่เลือกว่าจะดูวิดีโอตัวไหนบน YouTube แล้วแตะตรงปุ่มที่เขียนว่า TV บนแอพ วิดีโอก็จะไปปรากฏอยู่บนทีวีของเราทันที จากนั้นเราก็สามารถใช้โทรศัพท์มือถือเราเป็นรีโมตคอนโทรลได้เลย กดเดินหน้าย้อนหลัง ตั้งคิวได้ว่าจะให้วิดีโอไหนขึ้นทีวีก่อนหลังได้ด้วย เจ๋งไปเลยนะครับ ใครนึกภาพไม่ออกลองดูการสาธิต Send to TV ได้เลยครับ
งานนี้ทางตัวแทนของ YouTube ระบุว่าจะเปิดตัวพาร์ตเนอร์ที่งาน CES ด้วย โดยมี Philips, Samsung, Sharp, Toshiba, Vizio, Western Digital และอีกหลายๆ เจ้า
การใช้มือถือและแท็บเล็ต เป็นรีโมตคอนโทรลน่าจะเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจเทรนด์หนึ่งของปีนี้นะครับ เพราะบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ต่างก็ขานรับเทรนด์นี้กันถ้วนหน้า สังเกตได้ว่าบริษัทที่ผลิตฮาร์ดแวร์ต่างๆ มักจะสร้างแอพพลิเคชั่นให้เราสามารถควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ที่จะวางจำหน่ายได้ด้วย นึกภาพดูว่าต่อไปเวลาเราอยู่ในบ้าน เราสามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน อย่างเปิดไป ปิดไฟ ควบคุมพีซี คอมพิวเตอร์? หรือแม้กระทั่งอยู่นอกบ้าน อยากจะเปิดแอร์ก่อนจะถึงบ้านได้ด้วยมือถือก็ยังได้ และท้ายสุดนอกจากจะสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เราปลอดภัยมากขึ้นด้วยการควบคุมระบบรักษาความปลอดภัยอีกด้วย
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=TNOsB8tRmWU
ความเห็น: ถึงจะมีกระแสข่าวน่าตื่นเต้นเกี่ยวกับ Google TV ออกมาแค่ไหน ก็ยังมี Blogger หลายๆ ท่านก็ยังบอกว่า Google TV เป็นผลิตภัณฑ์ที่ยังต้องปรับปรุงอีกเยอะ และในเชิงธุรกิจแล้ว ผมว่ากว่าที่ Google ซึ่งเป็นเจ้าของ YouTube จะสร้างรายได้จากโฆษณาคงต้องใช้เวลาอีกสักพักใหญ่ๆ แต่อย่างน้อยเราทุกคนคงเห็นภาพในอนาคตกันมากขึ้นแล้วว่า การหลอมรวมสื่อนั้นจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นว่ามีแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานได้จริงบนทีวี (ที่ต้องบอกอย่างนี้เพราะหลายปีก่อนหน้านี้ผมว่าแอพที่มันมีอยู่บนทีวีก็ใช้งานจริงไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไหร่)
ที่มา: MarketingPilgrim.com และ Google TV Blog