เพื่อจะโปรโมท YouTube Music ซึ่งปล่อยตัวไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเมื่อปีที่แล้วในสหรัฐฯ YouTube จึงต้องการดึงจุดแข็งในเรื่องความแตกต่างออกมาเป็นจุดขาย
แม้คู่แข่งอย่าง Spotify จะได้ชื่อว่ามีเพลงที่หลากหลาย แต่ YouTube คือแหล่งรวมเพลงสตรีมมิ่งอันดับ 1 ของโลก ซึ่งนั่นจึงสื่อถึงผู้คนที่แตกต่าง ความชอบที่เป็นเอกลักษณ์ และนี่คือสิ่งที่ YouTube ต้องการให้ความสำคัญ
แคมเปญตัวล่าสุด YouTube ปล่อยออกมาเป็นซีรีส์ของหลากหลายตัวละคร โดยเนื้อหาของทุกตอนจะจบด้วยประโยคที่ต้องการจะสื่อว่า มันไม่ใช่แค่ว่าเราฟังอะไร แต่มันคือตัวตนของเรา
เรื่องราวในเนื้อหา ต้องการแสดงให้เห็นถึงความเป็นมนุษย์ให้ได้มากที่สุด ทั้งผู้หญิงที่ดูเรียบร้อย แต่สามารถแร็พเพลงของ Blackalicious ได้อย่างไม่สะดุด หรือเด็กหนุ่มที่ได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่ระหว่างเปิดเพลงฟังที่บ้าน รวมถึงผู้หญิงที่ฟังเพลงเศร้าเคล้าน้ำตาเวลาอกหัก
สิ่งที่ทำให้ซีรีส์โฆษณาชุดนี้แข็งแรง คือการต่อยอดจากแคมเปญ #ProudtoBe ที่ YouTube ได้ปล่อยออกมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน
Danielle Tiedt ซึ่งเป็น CMO ของ YouTube อธิบายว่า “ที่นี่ต้องการเป็นจุดศูนย์รวมของความแตกต่าง และความเป็นตัวของตัวเอง และแสดงให้เห็นว่าไม่ว่าใครก็สามารถหาสิ่งที่เขาชอบได้จาก YouTube Music”
เมื่อดูในเชิงธุรกิจแล้ว ถือว่า YouTube Music เปิดตัวท่ามกลางแอปพลิเคชันสำหรับฟังเพลงจำนวนมาก ซึ่ง YouTube ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงในปี 2015 ทั้งหมด 740 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 2.6 พันล้านบาท) สูงกว่าปี 2014 ถึง 11% แต่เมื่อเทียบกับยอดคนดูที่สูงขึ้น 132% ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
ที่มา : adweek
