Site icon Thumbsup

ลั่นกลองรบ! YouTube เปิดตัววิดีโอถ่ายทอดสดแบบ 360 องศา ท้าชน Facebook

ในที่สุดก็ถึงเวลาโต้ตอบอย่างเป็นทางการจาก YouTube หลังจากปล่อยให้ Facebook ชิงพื้นที่ข่าวในเรื่องนี้มาได้พักใหญ่ๆ โดยทาง YouTube ออกมาประกาศว่าจะเริ่มให้ครีเอเตอร์ทั้งหลายได้ใช้ฟีเจอร์ถ่ายทอดสดแบบ 360 องศา หรือในสไตล์ VR เพื่อให้ผู้ชมได้รับประสบการณ์เจ๋งๆ อย่างเช่น การเข้าร่วมเทศกาลดนตรี Coachella 

Neal Mohan ผู้ดูแลด้านผลิตภัณฑ์ของ YouTube ได้เขียนเอาไว้ในบล็อกว่า เด็กๆ สมัยนี้ฝันถึงการเข้าชมบาสเกตบอล หรือคอนเสิร์ต ถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ไกลจากสถานที่จริงแค่ไหนก็ตาม อะไรที่เคยเป็นข้อจำกัดก็จะไม่มีอีกต่อไป เพราะทุกคนจะต้องเข้าถึงประสบการณ์ตรงนั้นได้ทุกที่ ทุกเวลา จากที่ไหนก็ตาม

ในแง่ของการแข่งขันสำหรับตลาดวิดีโอ ทั้ง YouTube และ Facebook ต่างก็ทุ่มสุดตัวสำหรับบริการถ่ายทอดสดและวิดีโอแบบ 360 องศา ซึ่งในตอนนี้ยังเป็นคุณสมบัติที่ใช้งานแยกจากกัน และจากข่าวนี้ มันจะถูกนำมาใช้รวมกันได้ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์รับชมคอนเทนต์แบบดิจิทัลไปอีกขั้น

ถ้าจะพูดให้ชัดลงไปอีก เราสามารถเปรียบเทียบได้ง่ายๆ คือ 360 องศาคือ VR ในเวอร์ชั่นเบาๆ ซึ่งผู้ใช้งานจะเลือกดูมุมซ้าย ขวา บน หรือล่างได้ตามต้องการ ในขณะที่เทคโนโลยีการถ่ายทอดสด ณ ปัจจุบัน ยังไม่สามารถเปิดให้ผู้ชมเลือกมุมมองได้เองถึงขนาดนั้น

ย้อนกลับมาดูทาง Facebook กันบ้าง Mark Zuckerberg ประกาศแผนในอีก 10 ปีข้างหน้าของ Facebook ในงาน F8 โดย 1 ในเรื่องที่เขาพูด มีการถ่ายทอดสดและพลังของ VR รวมอยู่ด้วย อย่างที่เราทราบกันว่า Facebook เริ่มส่ง Oculus Rift ไปถึงมือลูกค้าที่พรรีออเดอร์แล้ว และเปิดตัวกล้องวิดีโอสำหรับเก็บภาพแบบ 360 องศาแล้วเช่นกัน

พร้อมกับข่าวการเปิดตัวในครั้งนี้ Google ยังปล่อยซอฟต์แวร์สำหรับผู้ผลิตกล้องเพื่อให้กล้องทุกรุ่นสามารถถ่ายทอดสด YouTube แบบ 360 องศาได้

แน่นอนว่ามันเป็นบริการที่มีดีมานด์ค่อนข้างสูง ทั้งจากแบรนด์ มีเดีย ครีเอเตอร์ ไปจนถึงผู้ใช้งานทั่วๆ ไป จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ Facebook เปิดให้ถ่ายทอดสด หน้าฟีดของเราก็คึกคักมากขึ้น และ Publisher ที่ถ่ายทอดสดก็ได้ยอดวิวไปหลายหมื่นสำหรับการถ่ายทอดสดแต่ละครั้ง

ที่ผ่านๆ มา ดูเหมือนว่า YouTube จะมีโมเดลการทำเงินจากธุรกิจนี้หลากหลายกว่า รวมทั้งมีโฆษณาแบบ pre-roll ด้วย สำหรับการถ่ายทอดสดแบบ 360 องศาในครั้งนี้ ยังไม่มีข้อมูลออกมาว่าจะถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์เมื่อไร และอย่างไร

ที่มา : Digiday