ในมุมของนักท่องเที่ยว หลายคนอาจพอใจหากพบว่าโรงแรมที่ตนเองมองหามีบริการ Wi-Fi เอาไว้คอยท่า แต่การกดจองเพื่อไปพบกับสถานการณ์จริงที่ว่า Wi-Fi โรงแรมโหลดช้า มีแต่ความติดขัด อาจกลายเป็นประเด็นใหม่ให้โรงแรมต้องมาตามแก้เรื่องความพึงพอใจแทนก็เป็นได้
เหตุที่กล่าวเช่นนั้นเพราะทุกวันนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคอยู่กับหน้าจอสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่อเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น หากโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวยังสามารถอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถ “เชื่อมต่อ” ได้อย่างไม่ติดขัด ก็เท่ากับช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจได้แล้วนั่นเอง
สอดคล้องกับผลการศึกษาของ Zebra Technologies ที่นำเสนอในหัวข้อ Hospitality Vision Study และพบว่า ลูกค้าส่วนมากคาดหวังว่าจะได้ใช้บริการ Wi-Fi ที่รวดเร็ว ขณะที่การเพิ่มความสะดวกสบายในการเช็คอินเข้าโรงแรมด้วยสมาร์ทโฟน หรือการเลือกสถานที่และเลือกการบริการได้ตามความต้องการก็เป็นตัวเพิ่มประสบการณ์เชิงบวกต่อโรงแรมได้เช่นกัน
ส่วนโรงแรมไหนที่อยากได้ข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า อาจลองเสนอโปรโมชั่นใหม่ ๆ ดูก็ได้ เพราะมีผู้เข้าพักจำนวน 75% เลยทีเดียวที่ยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว เช่น เพศ อายุ และ อีเมล์ สำหรับรับข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่น คูปอง และคะแนนรอยัลตี้
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า 74% ของโรงแรมหรือรีสอร์ทกำลังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยีการให้บริการตามตำแหน่งที่ตั้ง (Location Based Service) มาประยุกต์ใช้ภายในปีหน้า เพื่อจัดอันดับการรับรู้และวิเคราะห์ความสำคัญของผู้เข้าพัก รวมถึงการนำเสนอโปรโมชั่นพิเศษให้ตรงกับความต้องการมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี เมื่อหันมามองที่ฝั่งลูกค้าผู้เข้าพัก ทางผู้สำรวจพบว่า แต่ละเจนเนอเรชั่นก็มีทัศนคติที่แตกต่างกัน โดย 34% ของกลุ่ม Millennial ยินดีที่จะระบุพื้นที่ ตรงข้ามกับกลุ่มผู้เข้าพักที่มีอายุระหว่าง 50-64 ปี มีจำนวนเพียง 13 % ที่รู้สึกโอเคกับการเปิดเผยตำแหน่งที่ตนเองอยู่
“การทำให้แขกสามารถใช้สมาร์ทโฟนเพื่อทำทุกอย่างตั้งแต่การสั่งซื้ออาหารไปจนถึงการรับข้อความแจ้งเตือนสำหรับความพร้อมของห้องพักและการอัปเกรดที่เป็นไปได้ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ทางการตลาดที่ดีสำหรับธุรกิจโรงแรมในยุคนี้เลยทีเดียว” เจฟ สชมิทซ์ รองประธานอาวุโสและหัวหน้าผู้บริหารระดับสูงฝ่ายการตลาดของ Zebra Technologies กล่าว