ทุกๆ ปี Facebook จะจัดงานสำแดงเดชทางเทคโนโลยีที่ชื่อว่า F8 conference ออกมา มีลักษณะคล้ายๆ Google จัดงาน Google I/O อะไรเทือกนั้นครับ เมื่ออาทิตย์ก่อน Facebook ก็ออกมาจัดเหมือนเดิม และประกาศอะไรใหม่ๆ หลายอย่างที่นักการตลาดน่าจะสนใจออกมา เลยขอรวบรวมมาให้ 5 ข้อดังต่อไปนี้
1. Messenger Platform
Facebook ได้ประกาศเปิดให้นักพัฒนาเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาแอปฯ ที่อยู่ภายใน Facebook Messenger ดังนั้นต่อไปพวกแบรนด์ใหญ่ๆ ก็จะเข้าถึงคนราวๆ 600 ล้านคนที่ใช้ บน Facebook Messenger ทุกๆ วันได้ทันที
โดยแอปฯ ที่นักพัฒนาจะสร้างขึ้นมานั้นก็จะถูกติดตั้งใน Facebook Messenger ได้เลย หรือจะเอา Content มาใส่ให้คนอ่านก็ได้ นึกภาพดูว่าต่อไปเราทำเว็บไซต์ขึ้นมาสักเว็บ เราอยากให้คนมาดูเยอะๆ เราก็ติดปุ่ม Share (Facebook, Twitter, Google+, Email) แต่ต่อไปเราจะใส่เอาปุ่ม share ไป Messenger มาใส่ด้วย ทำให้คนสามารถ share แบบเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น
นอกจากนี้ Facebook ยังได้ประกาศเปิดตัว Businesses on Messenger ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้แบรนด์กับผู้บริโภคสามารถสื่อสารกันได้ง่ายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น นึกภาพว่าต่อไปเจ้าของเพจร้านค้าต่างๆ สามารถส่งอัปเดตรายการสินค้า การยืนยันการส่งของ และการตอบคำถามลูกค้าผ่านทาง Facebook Messenger ได้อีก ใครสนใจก็อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่นะครับ Facebook ดัน Messenger เป็นแพล็ตฟอร์มพร้อมดัน Businesses on Messenger ตอบโจทย์ Commerce
2. Mobile Ad Exchange
เมื่อปีที่แล้ว Facebook ได้เข้าซื้อกิจการของบริษัทโฆษณาวิดีโอออนไลน์ที่ชื่อ LiveRail ปีนี้ Facebook ได้ออกมาเพิ่มคุณสมบัติบางอย่างเข้าไปใน LiveRail เช่น ขยายให้ LiveRail เป็นอะไรมากกว่าวิดีโอ โดยทำให้มันสามารถแสดงผลโฆษณาแบบแบนเนอร์ หรือ display ads ได้ด้วย โดย Facebook จะนำเอาข้อมูลของผู้ใช้มาใช้บางส่วนเพื่อช่วยให้ผู้โฆษณาสามารถโฆษณาหาคนกลุ่มต่างๆ เหล่านี้ได้แม่นยำมากขึ้น ทำออกมาชนกับ DoubleClick ของ Google นั่นเอง
3. Analytics for Apps
หนึ่งในการโฆษณาของ Facebook ที่หลายคนน่าจะสนใจก็คือการโฆษณาแอปพลิเคชั่นมือถือ ทางบริษัทเลยเข็น Facebook Analytics for Apps ออกมา เครื่องมือที่จะมาช่วยให้นักการตลาดสามารถวิเคราะห์ได้ว่าผู้ใช้ได้เข้ามาใช้แอปพลิเคชั่นมือถือของตัวเองอย่างไร เช่น ใครเป็นกลุ่มของผู้ใช้แอปฯ นั้นๆ อยู่ในประเทศไหน ใช้จากมือถือหรือ PC
4. Video Embeds
เดี๋ยวนี้คนแชร์วิดีโอผ่านทาง Facebook มากขึ้นเยอะ และหลายคนก็เชื่อว่ามันจะมาแข่งกับ YouTube ได้แน่นอนในอนาคต Facebook เลยเปิดให้ผู้ใช้สามารถฝังวิดีโอได้บนเว็บไซต์ ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดี เพราะก่อนหน้านี้ Facebook ทำได้แค่ให้คน share กันได้บน Facebook แต่พอฝังไว้บนเว็บไซต์ทั่วๆ ไปแล้ว แบรนด์ต่างๆ ก็คงคิดกันได้ล่ะครับว่าจะใช้ Facebook share วิดีโอ เหมือนกับที่เคยใช้ YouTube มาตลอด
5. App Invites
ถ้านักการตลาดอยากจะให้คนมาดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นของตัวเองเยอะๆ จะทำอย่างไร ล่าสุด Facebook เปิดตัว App Invites ที่ทำให้ผู้ใช้ชวนเพื่อนมาใช้แอปฯ ที่ตัวเองชอบได้ง่ายขึ้น โดยพันธมิตรที่ร่วมทดสอบ App Invites ออกมาบอกว่าได้รับยอดคนติดตั้งแอปพลิเคชั่นมากขึ้นราว 5% ใครสนใจก็ลองเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่นี่
ที่มา: Econsultancy